การออกมาให้สัมภาษณ์สื่อของจาก พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ของพรรค คล้ายกับสะท้อนว่า ลึกๆแล้วเขาเองก็รู้ดีว่า จะเกิดอะไรขึ้นตัวเอง 


 เมื่อวันที่9ก.ค.66 พรรคก้าวไกลนัดหมายพี่น้องประชาชน ที่ลานหน้าห้างเซ็นทรัลเวิลด์  เพื่อขอบคุณทุกคะแนนเสียง พิธา ได้ตอบคำถามสื่อ กรณีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จะส่งพยานและหลักฐานให้ศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัยสมาชิกภาพความเป็น ส.ส.ให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย นั้นเป็นเรื่องที่รู้มาก่อนแล้ว 


  เป็นเรื่องที่รู้มาก่อนหน้านี้ ว่าจะมีการยื่นตรวจสอบ ตามมาตรา 82 ของรัฐธรรมนูญ ตอนแรกคาดว่าจะเป็นวันที่ 12 กรกฎาคม การที่จะยื่นพรุ่งนี้ยังไงก็ถือว่าเป็นเรื่องปกติตามที่เราคาดการณ์ไว้แล้ว จึงไม่มีอะไรที่น่ากังวลใจ ขอให้ทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการ ผมพร้อมที่จะชี้แจงทุกประเด็น 
 และเมื่อกกต. ขยับ  ทำท่าว่าจะส่ง เผือกร้อน ไปให้ศาลรัฐธรรมนูญชี้ขาด ปรากฏว่า พรรคก้าวไกล เดินหน้า รุก ทันที !  


 โดย ชัยธวัช ตุลาธน  ส.ส.บัญชีรายชื่อและเลขาธิการพรรคก้าวไกล ในฐานะ ผู้จัดการรัฐบาล  แถลงข่าวต่อสื่อในวันต่อมาทันควัน โดยไม่ต้องรอผลจากการประชุมของกกต. ว่าพรรคก้าวไกล ได้ส่ง หนังสือด่วน ไปยัง กกต. เพื่อคัดค้านกรณีที่จะส่งเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อให้วินิจฉัยกรณีการถือหุ้นสื่อของพิธา   เนื่องจากเป็นการกระทำที่ผิดขั้นตอนที่ระเบียบ กกต. ระบุไว้เอง มีความเร่งรัดเกินกว่าเหตุ จนน่าสงสัยในเจตนาของ กกต. ว่ากระทำโดยความเป็นกลางหรือไม่ ชัยธวัช ระบุกับสื่อ
 สถานการณ์ของพรรคก้าวไกล เวลานี้ แม้ฉากหลังจะมี มวลชน ทั้งพี่น้องประชาชนไปจนถึง ม็อบราษฎร และม็อบแนวร่วม ที่เคยเคลื่อนไหวต่อรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ตลอดหลายปีที่ผ่านมา เป็นเหมือน แบคอัพ ให้อุ่นใจ 


 แต่ย่อมไม่ได้หมายความว่า สถานการณ์ของพรรคก้าวไกล จะสามารถมั่นใจได้ว่า พิธา จะชนะโหวต ได้เสียงครบ 376 เสียง เมื่อสนามการต่อสู้ของจริงนั้นอยู่ที่ ที่ประชุมรัฐสภา อันประกอบด้วย 500 ส.ส.กับอีก 250 ส.ว. โดยเฉพาะต้องได้เสียงส.ว. 64 เสียง เพื่อไปบวกกับอีก 312เสียง ของ รัฐบาลเสียงข้างมาก เวลานี้ 
 เวลานี้ กุนซือพรรคก้าวไกล ต้องเปิดหน้าสู้ในทุกทาง ทั้งในสังเวียนสภาฯ การโต้กลับด้วยข้อกฎหมาย เพื่อหักล้างข้อกล่าวหากรณีถูกร้องเรื่องคุณสมบัติ ส่วนทัพมวลชน ที่กำลังถูกจับตาว่า พร้อมไปชุมนุมให้กำลังใจ พิธา แต่กดดัน ฝั่งตรงข้าม ไปจนถึง ส.ว. 


  อาจเป็น ความได้เปรียบ ในระดับภาคสนาม แต่ขณะเดียวกันก็อาจถูกพลิกเกมกลับให้กลายเป็น จุดอ่อน เปิดทางให้ฝ่ายความมั่นคง ต้องออกมาขยับใช้กฎหมายเข้าควบคุม !