ท่าทีของ พรรคเพื่อไทย ถูกจับตามองที่สุด ทั้งในฐานะ ว่าที่พรรคแกนนำ ในการจัดตั้งรัฐบาลไม่ว่าจะเป็น สูตรเดิม ที่ผนึกกำลังเอาไว้ที่ 312เสียง ของ 8พรรคร่วมรัฐบาล หรือการเตรียมเปิด แผนสอง เสนอชื่อ แคนดิเดตนายกฯ ของพรรคเพื่อไทย หากบทสรุปการโหวตนายกฯรอบสอง ในวันที่ 19 ก.ค.นี้ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ต้องพ่ายซ้ำที่ด่าน 250ส.ว. 


 ตลอดทั้งวัน วานนี้ (17 ก.ค.66)  การออกมาให้สัมภาษณ์ของ บิ๊กเนม ของพรรคเพื่อไทย ทั้ง ภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย และ เสี่ยนิด เศรษฐา ทวีสิน แดนดิเดตนายกฯ พรรคเพื่อไทย ล้วนแล้วแต่ถูกนำไปตีความ ว่าพรรคเพื่อไทย กำลังจะหาทาง ตีจาก พรรคก้าวไกล 151เสียงแล้วหรือไม่ 
 เมื่อภูมิธรรม ตอบคำถามสื่อว่า หากในกรณีที่พิธา โหวตไม่ผ่านรอบสอง แล้วพรรคเพื่อไทย จะไม่มี ทางออก  หรือแผนสำรองเอาไว้ก็คงไม่ใช่  แต่สิ่งที่ต้องมาพูดคุยกันให้ชัดเจน นั่นคือการโหวตขื่อพิธา จะดำเนินต่อไปอีกกี่ครั้ง 


 นอกจากนี้ยังพบว่ามีประเด็นที่ภูมิธรรม ในฐานะมือประสานการเจรจาตั้งรัฐบาล ยังแสดงความเห็นในท่วงทำนองว่าไม่เอาด้วย ในเรื่องของการแก้ไขมาตรา 272
   แก้รัฐธรรมนูญ ม.272 เพื่ออะไร ทั้งที่รู้ว่าไม่สำเร็จและยากกว่าที่เสนอพิธาเป็นนายกฯ เพียงเพื่อต้องการถ่วงเวลาและแสดงสัญลักษณ์ว่าได้ต่อสู้แล้ว แต่ไม่นึกถึงวาระประเทศและวาระประชาชนที่กำลังวิกฤติและทุกข์ยาก อยู่กับความจริงและแก้ปัญหาจากความจริงดีกว่า


 เมื่อบิ๊กเนม ของพรรคเพื่อไทยส่งสัญญาณที่กำลังออกมาในทางลบในการจับมือกันตั้งรัฐบาลเช่นนี้ ดูจะสอดคล้องไปกับกระแสข่าวที่เกิดขึ้นตลอดหลายวันที่ผ่านมา ว่า พรรคก้าวไกล มีโอกาสที่จะถูกดันออกจากแนวร่วม 8พรรค แล้วไปเป็น พรรคฝ่ายค้าน  


 นอกจากนี้ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธิ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ยังให้สัมภาษณ์สื่อเมื่อวันประชุมใหญ่ของพรรค ที่ 15 ก.ค.ที่ผ่านมา ส่งซิก กดดัน ไปยังพรรคก้าวไกล ว่าควรเสียสละตัวเองไปเป็นฝ่ายค้าน 


 แน่นอนว่าในจังหวะที่พรรคร่วมรัฐบาลทั้ง8พรรคกำลังหาทางผลักดันให้ พิธา ชนะโหวตในรอบที่สอง 19 ก.ค.นี้ก็ตาม แต่ย่อมไม่ได้หมายความว่า โอกาสของ พรรคเพื่อไทย จะถูกปิดตายลงไปด้วย การเสนอชื่อเศรษฐา ทวีสิน คือความชอบธรรม ที่พรรคเพื่อไทย กำลังจะจังหวะและสถานการณ์ที่สุกงอม และเหมาะสมมากพอ ! 
 /////////////////