สงครามครั้งสุดท้าย ?

บาดเจ็บกันถ้วนหน้า สำหรับ ด้อมส้ม สาวกของพรรคก้าวไกล เมื่อภารกิจ ส่ง พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรค ไปไม่ถึงฝั่ง !
        
 และแน่นอนว่าความรู้สึกพ่ายแพ้ และโกรธแค้น ต่อทุกอุปสรรคที่ทำให้ พิธา ชวดเก้าอี้ นายกฯคนที่30 ครั้งนี้ ย่อมสามารถแปรเปลี่ยนไปสู่การปลุกระดมมวลชน ให้ออกมาต่อสู้บนท้องถนน เมื่อเกมในรัฐสภา พรรคก้าวไกล พ่ายจะหมดรูป 
        
 แกนนำมวลชนแนวร่วมม็อบราษฎร ที่ชื่นชอบและเทใจให้กับพิธา ต่างพากันชักชวน ให้พรรคก้าวไกลเลือกเส้นทางใหม่ ด้วยการ ลงถนน เมื่อในสภาฯไม่มีที่ยืนให้กับพิธา ในความเป็นจริงแล้ว คนในพรรคก้าวไกลต่างรับรู้กันดีว่า การลงถนนด้วยอาศัย มวลชนเป็นแรงหนุน ย่อมไม่ใช่คำตอบ เพราะดี ไม่ดีแล้ว อาจกลายเป็นพากัน ตายหมู่  
         
ยิ่งเมื่อสถานการณ์เช่นนี้ เหลือแกนนำม็อบที่เคยเป็นแนวร่วมเพียงไม่กี่คน และล่าสุดยังปรากฏว่า สน.ปทุมวัน ได้ทำเรื่องขอศาลเพิกถอนการประกันตัวชั่วคราวแก่ "อานนท์ นำภา  ทนายจากศูนย์ทนายเพื่อสิทธิมนุษยชน แกนนำกลุ่มราษฎร ด้วยผิดเงื่อนไข 3 ข้อ หลังได้รับการถอดกำไล EM  และมีความเป็นไปได้ว่า ทนายอานนท์ คงไม่ใช่แกนนำม็อบรายสุดท้ายที่จะถูกเบรค เพื่อหยุดเกมบนท้องถนน 
         
ดังนั้นการต่อสู้ของพรรคก้าวไกล  อาจเป็นเรื่องที่ยาวไกล ตามที่ แกนนำคณะก้าวหน้า ได้ให้กำลังใจ พิธา หรือไม่นั้น ยังเป็นประเด็นที่ต้องติดตาม แต่ขณะเดียวกันการพลิกเกมของพรรคก้าวไกล จากนี้เมื่อมีความชัดเจนแล้วว่า พรรคเพื่อไทย เตรียมถือธงนำ ทำหน้าที่เป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล และพร้อมที่จะเสนอชื่อ เศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกฯ ของพรรค ขึ้นมาเพื่อให้ที่ประชุมรัฐสภา โหวต ในวันที่ 27 ก.ค.นี้ 
        
 แต่การที่เดินหน้าร่วมกันต่อไประหว่าง ก้าวไกล กับ เพื่อไทย จากนี้ต่อไปอย่างไร คือจุดพลิกผันที่หลายฝ่ายกำลังรอลุ้นว่าหากเป็นไพ่แล้วจะออกหน้าไหน  โดยที่พรรคเพื่อไทย จะเสียหายน้อยที่สุด ไม่ถูกทำให้กลายเป็น ศัตรู และ จำเลยสังคมเพราะสิ่งที่เกิดขึ้นตามมามีแต่จะทำให้ทัวร์หันมาลงที่พรรคเพื่อไทย และเสียรังวัด ก่อนเดินไปถึงการเป็นรัฐบาลใหม่ 
         
ทั้งนี้สำหรับพรรคก้าวไกล และแกนนำคณะก้าวหน้า ย่อมมองในอีกทางหนึ่ง ที่อาจเป็นการทิ้งระเบิดก่อนจาก นั่นคือการประกาศตัว ทำหน้าที่ พรรคฝ่ายค้าน เพื่อทวงคืนความชอบธรรม และแสดงให้สังคมเห็นว่าเป็นฝ่ายถูกกระทำ  
         
หรือในอีกทางหนึ่ง คือการเกาะกลุ่มมัดกันเอาไว้กับพรรคเพื่อไทย เพราะนาทีนี้แม้จะเสียเก้าอี้นายกฯ แต่ใช่ว่าจะหมดความหวังกับการได้เดินทางเข้าทำเนียบรัฐบาล ในฐานะพรรคร่วมรัฐบาลอันดับหนึ่ง การต่อสู้ของพรรคก้าวไกล ที่รับแนวคิดและอุดมการณ์ทางการเมือง ตลอดจนความมุ่งหมายในการแก้ไขมาตรา 112 จึงใช่ว่าจะถูกปิดตายลง แม้จะไม่มีพิธาเป็นนายกฯ ก็ตาม !