บรรยากาศทางการเมือง คุกรุ่นตั้งแต่ห้วงก่อนวันหยุดยาว เมื่อการจับมือ 8พรรคร่วมฯในปีก ว่าที่รัฐบาลเสียงข้างมาก กำลังเข้าสู่มุมอับ !
 

วันนี้ 312เสียง ของ 8พรรคการเมือง ที่แม้จะประกาศทำ MOU  ก่อนตั้งแต่รู้ผลการเลือกตั้งอย่างไม่เป็นทางการเพียงไม่กี่วัน กลับเข้าสู่โหมดอารมณ์คล้ายคนที่อยากรัก อยากเลิกก็ไม่ต่าง 

 การจับมือกันชู เสียงข้างมาก 312 เสียง เคยมีความแข็งแกร่ง กลับพลิกผันมาสู่ความไม่มั่นคง เมื่อเวลาผ่านพ้นไปกว่าสองเดือน  กลับยังไม่มีความคืบหน้าทั้งเรื่องของ ตัวนายกฯคนที่30 ที่ยังต้องรอลุ้นว่า ในวันที่ 4 ส.ค.66 การโหวตรอบที่สาม จะมีขึ้นได้หรือไม่ 

 สำหรับพรรคเพื่อไทยแล้ว เมื่อชื่อ พิธา  ลิ้มเจริญรัตน์ แคนดิเดตนายกฯ ของพรรคก้าวไกล ไม่ผ่านคะแนนในที่ประชุมรัฐสภา ในรอบแรก และต่อมามีปัญหาในการโหวตรอบที่สอง เมื่อมีสมาชิกในที่ประชุมยกข้อบังคับสภาฯ ข้อที่ 41 ขึ้นมายับยั้ง และตามมาด้วย ปัญหาเรื่องคุณสมบัติส่วนตัวของพิธา ที่ถูกร้อง จนศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่สส. จนกว่าจะมีคำวินิจฉัย  แต่นี่คือ โอกาส ที่พรรคเพื่อไทย จะเสนอชื่อ ให้ที่ประชุมรัฐสภา ให้ความเห็นชอบ แคนดิเดตนายกฯ ของพรรค 
 

ทว่า เมื่อมีการ หยั่งเสียง หยั่งเชิงกันแล้ว พรรคเพื่อไทยได้คำตอบจาก สว. และ 5พรรคการเมือง ในปีก รัฐบาลเดิม ทั้งพรรคพลังประชารัฐ รวมไทยสร้างชาติ ชาติพัฒนากล้า ชาติไทยพัฒนาและภูมิใจไทย ว่ายินดีสนับสนุน เพื่อไทย ภายใต้เงื่อนไขที่ว่า ต้องไม่มีก้าวไกลอยู่ในสมการ !!

 จากการพูดคุยระหว่างพรรคเพื่อไทยกับ 5 พรรคการเมืองในขั้วรัฐบาลเดิม ซึ่งมีพรรคของ 2ลุง ร่วมอยู่ด้วย ยิ่งทำให้เกิด สารพัดสูตร ในการจัดตั้งรัฐบาลขึ้นมาใหม่ เพื่อให้ แคนดิเดตนายกฯของพรรคเพื่อไทย ผ่านฉลุย ได้เก้าอี้ผู้นำรัฐบาลไปครอง  
 

ยิ่งเมื่อพรรคเพื่อไทยมี เงื่อนไข มาเป็นตัวแปรหลัก คือการกลับประเทศไทยของ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ท่ามกลางกระแสข่าวลือว่า  นี่คือไฟท์บังคับที่ทำให้พรรคเพื่อไทยต้องดึง พรรค2ลุง เข้าร่วมรัฐบาล และต้องไม่มีพรรคก้าวไกล
 

สูตรการตั้งรัฐบาลวันนี้ เป็นไปได้ทั้ง การให้พรรคอันดับสาม อย่าง ภูมิใจไทย เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล หากแคนดิเดตนายกฯของเพื่อไทย ฝ่าด่านในรัฐสภา ไม่สำเร็จ หรือการดึงพรรคภูมิใจไทย ซึ่งมี 71 เสียงเข้ามาร่วม แล้วผลัก ก้าวไกล ออกไปเป็น ฝ่ายค้าน จากนั้นจะตามมาด้วย พรรคชาติไทยพัฒนา พรรคพลังประชารัฐ ไปจนถึงพรรครวมไทยสร้างชาติ 

 แน่นอนว่าทุกสูตร ทุกสมการที่กำลังถูกจับตาว่าจะเป็นการผ่าทางตันให้การเมืองเดินหน้านั้น ล้วนแล้วคือการ ตัด  พรรคก้าวไกล ออกจากการร่วมรัฐบาล เพื่อแลกกับการเสี่ยง พากัน ตายหมู่ รวมทั้งความเป็นไปได้ที่พรรคเพื่อไทย จะเลือกทำตามข้อเสนอปิดสวิตช์สว. โดยให้รอจนกว่าจะหมดวาระในเดือนพ.ค.2567 นั้นเชื่อเถอะว่า พรรคเพื่อไทย รอไม่ได้ยาวนานขนาดนั้น !