การเดินหน้าจัดตั้งรัฐบาล โดย พรรคเพื่อไทย ยังคงสุดอยู่ด้วยกันหลายด้าน ทั้งปัญหาความไม่พอใจจาก คนในพรรคด้วยกันเองที่ไม่ต้องการให้ดึง พรรค2ลุง เข้ามาร่วมรัฐบาล ไม่ว่าจะเป็น พรรคพลังประชารัฐ และพรรครวมไทยสร้างชาติ


 แม้การประกาศจับมือตั้งรัฐบาลระหว่าง เพื่อไทย กับ พรรคภูมิใจไทย อย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 7 ส.ค.66 ที่ผ่านมา บรรยากาศความขุ่นข้องหมองใจระหว่าง แกนนำพรรค  ที่เคยฟาดฟันกันมาเมื่อครั้งหาเสียง ปราศรัยใส่กันอย่างดุเดือด จะหายไปแล้ว แต่ดูเหมือนว่าส.ส.ของพรรคเพื่อไทย เองออกมาส่งสัญญาณไม่พอใจตั้งแต่เมื่อครั้งที่พรรคเพื่อไทย ฉีกเอ็มโอยู กับพรรคก้าวไกล มีอันต้องหันหลังให้กัน 


 และในการแถลงจับมือตั้งรัฐบาลระหว่างพรรคเพื่อไทยกับภูมิใจไทย จะมีการประกาศท่าทีชัดเจนว่า คล้ายเป็นการปิดทาง 2ลุง เมื่อพรรคเพื่อไทยดึงพรรคอันดับสาม มาร่วมด้วย ต้องการชี้ให้เห็นว่า พรรคเพื่อไทย เป็นฝ่าย สลายขั้ว ของ 188เสียง ในกลุ่มขั้วรัฐบาลเดิม 


 ทว่า จนถึงวันนี้กลับมีความคลางแคลงใจ  ไม่เชื่อว่าที่สุดแล้ว พรรคเพื่อไทย จะไม่ดึง พรรคของลุง พรรคใด พรรคหนึ่งเข้าร่วมรัฐบาล ซึ่ง อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและรมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย  ให้สัมภาษณ์สื่อว่า การที่จะดึงพรรคใดเข้าร่วมรัฐบาล เป็นการตัดสินใจของพรรคเพื่อไทย ที่จะส่งเทียบเชิญ 


 อย่างไรก็ดี วันนี้ สถานการณ์ของพรรคเพื่อไทย กำลังเจอกับแรงเสียดทานอย่างต่อเนื่อง ทั้งจาก ม็อบทะลุวัง ซึ่งถูกมองว่าเป็นม็อบฝ่ายสนับสนุนพรรคก้าวไกล บุกมาต่อต้านที่พรรคเพื่อไทย หลายครั้ง  ขณะเดียวกัน ยังต้องรอลุ้นว่า ที่สุดแล้ว สว. จะยกมือสนับสนุนแคนดิเดตนายกฯ จากพรรคเพื่อไทย หรือไม่ หรือจะอยู่ที่ตัวเลขเท่าใด ? 
 ชื่อแคนดิเดตนายกฯจากพรรคเพื่อไทย อย่าง เศรษฐา ทวีสิน กำลังถูก ตั้งแง่ จากสว.อย่างชัดเจน และยังไม่มีใครการันตีได้ว่า การที่แกนนำพรรคเพื่อไทย ยืนยันว่าได้เสียงในการจัดตั้งรัฐบาลเกินครึ่งแล้วนั้น อยู่ที่ตัวเลขเท่าใดกันแน่ 


 ยิ่งวันนี้ยังไม่มีความชัดเจนว่า พรรคเพื่อไทย จะต่อสาย เชิญพรรคการเมือง ในปีกขั้วรัฐบาลเดิม มาร่วมรัฐบาลเพิ่ม ยิ่งทำให้เกิดความหวั่นไหวว่า เกมของพรรคเพื่อไทย จะเดินหน้าต่อไปได้อย่างมั่นคง แค่ไหน ?