รศ.ดร.สุขุม เฉลยทรัพย์

ประธานที่ปรึกษาสวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต

การขับเคลื่อนองค์กรผ่านเครือข่ายเกี่ยวข้องกับการสร้างและรักษาความสัมพันธ์กับบุคคลและกลุ่มต่าง ๆ ทั้งภายในและภายนอกองค์กร เครือข่ายที่มีประสิทธิภาพสามารถช่วยให้องค์กรเติบโตก้าวหน้า เข้าถึงทรัพยากรที่มีค่า และติดตามความเคลื่อนไหวและแนวโน้มต่าง ๆ ได้ทันสถานการณ์

สาเหตุหนึ่งที่ทำให้องค์กรล้มเหลวไม่สามารถขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงองค์กรตามเป้าหมายที่ต้องการจะเห็นหรือเป็นก็คือ ตัวผู้นำไม่สามารถใช้ช่องทางที่ไม่เป็นทางการเพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงท่ามกลางโลกยุคใหม่ที่มี "การเชื่อมต่อแบบไฮเปอร์" (Hyper-connected) และการเเปลี่ยนแปลงก็ดำเนินไปอย่างรวดเร็ว (Fast-moving) เนื่องจากสถานะการเชื่อมต่อกันของผู้คน อุปกรณ์ ระบบ หรือเครือข่ายมีความหลากหลายและกว้างขวางมากทั้งในระดับบุคคล องค์กร และแม้แต่อุปกรณ์ต่าง ๆ ที่เชื่อมโยงเข้าหากันก็ เต็มไปด้วยความสลับซับซ้อนและหลากหลายแง่มุมผ่านเทคโนโลยีขั้นสูง เช่น อินเทอร์เน็ต โซเชียลมีเดีย และแพลตฟอร์มการสื่อสาร

การลดหรือการขจัดความล้มเหลวในการขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงองค์กรด้วยวิธีที่มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นกว่าเดิม คือ การใช้เครือข่ายที่มีอยู่แล้วภายในองค์กรแต่ถูกซ่อนบังไว้ “เครือข่ายอิทธิพลที่ไม่เป็นทางการ”

เครือข่ายที่ไม่เป็นทางการเกิดจากปฏิสัมพันธ์ระหว่างผู้คนและกลุ่มต่าง ๆ โดยธรรมชาติ ซึ่งมีพื้นฐานมาจากความสัมพันธ์ (Relationship) ไม่ใช่ตามอำนาจหน้าที่ (Authority) หากเครือข่ายที่ไม่เป็นทางการที่มีอยู่เหล่านี้ถูกทำให้มองเห็น เข้าใจ และหยิบเอามาใช้งานได้ จะทำให้การเปลี่ยนแปลงองค์กรผ่านเครือข่ายเหล่านี้เกิดขึ้นจริง เป็นระบบ รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ

ร็อบ ครอส (Rob Cross) นักพูด นักการศึกษา และผู้เชี่ยวชาญด้านกลยุทธ์การใช้เครือข่ายเพื่อเพิ่มประสิทธิผลองค์กร ได้ศึกษาพลวัตของเครือข่ายพื้นฐานขององค์กรที่มีประสิทธิภาพและแนวปฏิบัติในการทำงานร่วมกัน กล่าวว่า การทำงานผ่านเครือข่าย กำลังเปลี่ยนวิถีผู้คนที่เป็นผู้นำ ตลอดจนวิถีการทำงาน และการใช้ชีวิตในโลกที่มีการเชื่อมต่อถึงกัน

จากการใช้ ONA หรือ Organizational Network Analysis ซึ่งเป็นวิธีการที่มีโครงสร้างเพื่อพิจารณาให้เห็นภาพว่าองค์กรสื่อสารอย่างไร ใช้ข้อมูลหรือสารสนเทศอย่างไร และตัดสินใจอย่างไร พบว่า บุคลากรในองค์กรที่ทำหน้าที่เป็นเครือข่ายอย่าง ไม่เป็นทางการให้กับองค์กรเป็นกุญแจสำคัญในการขับเคลื่อนเพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลงองค์กรให้ประสบความสำเร็จมากขึ้น

สำหรับบทบาทของบุคลากรเครือข่ายภายในองค์กรจะแบ่งออกเป็น 3 ประเภท คือ 1) ตัวเชื่อมกลาง (Central connectors)
2) นายหน้า (Brokers) และ 3) ผู้กระตุ้น (Energizers) โดยบทบาทเหล่านี้ไม่ได้ถูกกำหนดและไม่มีระบุเอาไว้ในแผนผังองค์กร
(อ่านเพิ่มเติมที่ https://www.robcross.org/drive-organizational-change-through-network-inf...)

ตัวเชื่อมกลาง เป็นผู้เชื่อมต่อที่ดี เพราะมีสายสัมพันธ์มากมายทั้งในเชิงหน้าที่ พื้นที่/ภูมิศาสตร์ ความสามารถ และข้อมูลบุคคล ตัวเชื่อมกลางเป็นบุคคลที่ได้รับเคารพนับถือสูง ทำให้สามารถดึงหน่วยงานหรือส่วนต่าง ๆ ให้เข้ามามีส่วนร่วมในการทำงานได้อย่างรวดเร็ว รวมถึงการทำให้ผู้อื่นยอมรับเอาแนวคิดใหม่ ๆ ไปใช้ ตัวเชื่อมกลางถือเป็นผู้สร้างแนวร่วมภายในกลุ่มผ่านความเป็นผู้นำที่ไม่เป็นทางการและความคิดเห็นที่เชื่อถือได้

นายหน้า เป็นบุคคลที่มีความสำคัญในเครือข่ายซึ่งไม่ได้มาจากจำนวนของคนที่นายหน้าเชื่อมติดต่อด้วย แต่มาจากจำนวนของสายสัมพันธ์ที่นายหน้าเป็นสะพานเชื่อมเข้าหาองค์กร นายหน้าทำหน้าที่เป็นช่องทางที่สำคัญของข้อมูลหรือสารสนเทศ และเป็นผู้ที่
ทำหน้าที่ได้อย่างดีและมีประสิทธิพลในการเชื่อมผู้คนและกลุ่มคนที่มีแนวคิดและความสนใจร่วมกันให้มารวมตัวกันทำงานให้กับองค์กร

ผู้กระตุ้น เป็นบุคคลที่มีความสำคัญเพราะพยายามขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลง มีความกระตือรือร้นที่จะส่งเสริมและรับเอาแนวคิดหรือกระบวนการใหม่ ๆ มาใช้ ความกระตือรือร้นของผู้กระตุ้นจะจุดติดและกระจายไปสู่ผู้อื่นในองค์กร เป็นผู้สร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้อื่น ชอบแบ่งปันมุมมองใหม่หรือสะท้อนถึงความกังวลใจที่เป็นไปที่อาจจะเกิดขึ้น ผู้กระตุ้นยังมีความสำคัญต่อกระบวนการ
การยอมรับและผลกระทบที่มาจากการเปลี่ยนแปลง

ผลลัพธ์เชิงสร้างสรรค์ที่จะเกิดขึ้นเมื่อองค์กรใช้บุคลากรเครือข่ายที่ทรงอิทธิพลขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงหรือการทำงานร่วมกันประกอบด้วย 1) ลดความไม่พึงพอใจของผู้รับบริการหรือลูกค้า ร้อยละ 24 2) ลดต้นทุนผลงานที่มีคุณภาพต่ำ ร้อยละ 66 3) เพิ่มรายได้จากบริการหรือผลิตภัณฑ์ใหม่ ร้อยละ 22 และ 4) ช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพการดำเนินงาน มากกว่าร้อยละ 10

การประเมินเครือข่าย (Assessing networks) ก่อนการปรับโครงสร้าง กลยุทธ์ หรือการเริ่มต้นโครงการใหม่ที่สำคัญ ๆ จะช่วยให้องค์กรประสบความสำเร็จมากขึ้น และการวิเคราะห์เครือข่าย (Network analytics) ช่วยทำให้รู้ว่าใครคือผู้นำทางความคิดเห็นที่ ทรงอิทธิพลและไม่เป็นทางการ รวมถึงกระตุ้นผู้ที่เกี่ยวข้องให้เข้ามาช่วยดำเนินงานให้บรรลุผลตามแผนและโครงการ การมีส่วนร่วมของเครือข่ายผู้มีอิทธิพล (Network influencers) มีความสำคัญตั้งแต่ระยะแรกเริ่มในการขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงองค์กร เนื่องจากจะทำให้ผู้นำองค์กรสามารถผลักดันการเปลี่ยนแปลงให้เกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น

ผู้นำองค์กรพึงอย่ามองข้ามเครือข่ายผู้มีอิทธิพลที่เร้นกายแอบแฝงภายในองค์กร เพราะความสำเร็จขององค์กรวันนี้จะเห็นผลดีขึ้นและรวดเร็วขึ้นต้องอาศัยพวกเขาด้วยเช่นกันครับ!!!