แม้ทุกฝ่ายการเมือง ทุกขั้วอำนาจ ได้เคยบอกเอาไว้ก่อนหน้านี้ว่าการโหวตนายกรัฐมนตรี คนที่ 30 รอบที่3 จะมีขึ้นเมื่อใด ต้องขอรอฟัง คำวินิจฉัย  จาก ศาลรัฐธรรมนูญ  ในวันที่ 16 ส.ค.66 จะออกมาอย่างไรก็ตาม


 เพราะเมื่อที่สุดแล้ว ภายหลังศาลรัฐธรรมนูญ มีคำวินิจฉัย ออกมาอย่างเป็นทางการว่า ไม่รับคำร้อง กรณีที่ ผู้ตรวจการแผ่นดินส่งเรื่องสมาชิกรัฐสภา เสนอชื่อ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคก้าวไกล โหวตนายกฯซ้ำรอบที่ 2 ขัดต่อข้อบังคับการประชุมรัฐสภา หรือไม่ 


 แต่กลับกลายเป็นว่า การกำหนดวันโหวตนายกฯรอบที่ 3 จะออกมาว่าจะเป็นวันที่ 22 ส.ค.นี้ แต่ยังดูเหมือนว่า   ข้อตกลง ในทางการเมือง ในการจัดสรรตำแหน่ง รัฐมนตรี ใน รัฐบาลใหม่ นั้น ยังอยู่ในสภาวการณ์ที่ไม่ลงตัว !


 เพราะไม่เช่นนั้นคงไม่มีเสียงเรียกร้องจาก แกนนำ จากพรรคการเมืองต่างๆที่ พรรคเพื่อไทย ไปเชิญมาร่วมจัดตั้งรัฐบาล ทั้ง เสี่ยหนู อนุทิน ชาญวีรกูล ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ไปจนถึง วราวุธ ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา ที่แม้จะมีสส.เพียง 10ที่นั่ง ก็ยังส่งสัญญาณ กดดัน มายัง พรรคใหญ่ อย่างเพื่อไทยที่ถือ 141 เสียงเอาไว้ในมือ 


 ทั้งนี้ปัญหาในช็อตต่อไป เมื่อล่าสุด วรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล ส.ส.แพร่ พรรคเพื่อไทย เปิดเผยถึงการโหวตนายกรัฐมนตรีภายหลังศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัย  คาดว่าวันโหวตน่าจะเป็นวันที่ 22 ส.ค.เนื่องจากตามกรอบระยะเวลาหากโหวตในวันที่ 18 ส.ค.อาจจะไม่ทัน และเชื่อว่าจะมีการพูดคุยหารือกับพรรคร่วมรัฐบาลให้เสร็จสิ้นก่อนวันโหวตนายกฯ ย่อมหมายความว่า นี่อาจเป็นช่วงเวลาที่ พรรคเพื่อไทยอาจถูก บีบ อย่างหนัก จากพรรคการเมืองต่างๆ นอกเหนือจากพรรคชาติไทยพัฒนาและพรรคภูมิใจไทย 
 เพราะอย่าลืมว่า ทุกพรรค ทุกฝ่ายต้องการ ความชัดเจน ว่าเมื่อตัดสินใจเข้าร่วมรัฐบาลกับพรคเพื่อไทยแล้วจะได้ดูแลรับผิดชอบ กระทรวง ใดบ้าง ยิ่งเมื่อมีคนของพรรคเพื่อไทย ออกมาส่งสัญญาณว่า พรรคต้องการเดินหน้าแก้ปัญหาเศรษฐกิจ แต่การที่จะ ยึด เอากระทรวงด้านเศรษฐกิจ ไปเสียทั้งหมด อาจไม่ง่ายดาย


 เวลานี้ แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย เดินทางไปกับ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ผู้เป็นพ่อ แน่นอนว่า เบื้องหลังของการไปเยี่ยมเยียน ยังหอบเอา ปัญหาการเมืองว่าด้วยการจัดสรรเก้าอี้ในครม. เพื่อให้ เจ้าของพรรคตัวจริง ช่วยตัดสินใจและแก้ปัญหา อย่างไม่ต้องสงสัย !