ชัยชนะในการโหวตนายกรัฐมนตรีคนที่30 ตกเป็นของ พรรคเพื่อไทย อย่างเบ็ดเสร็จเมื่อ เศรษฐา ทวีสิน ได้รับคะแนนเสียงท่วมท้นจากที่ประชุมรัฐสภาด้วยคะแนน  482 เสียง ชนะแบบม้วนเดียวจบ ตามที่แกนนำพรรคเพื่อไทยอย่าง ภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรค ในฐานะทีมเจรจาจัดตั้งรัฐบาลได้แสดงความมั่นใจเอาไว้ก่อนหน้านี้ 
 และยิ่งเมื่อเช็คลงไปที่เสียงโหวตเห็นชอบ จากสส.จำนวน 330  เสียง และ สว.ที่ลงมติเห็นชอบจำนวน 152 เสียง โดยเสียงสว. 152 เสียงนั้นตรงกับ กระแสข่าว ที่มีขึ้นก่อนหน้านั้นเพียง1วันก่อนโหวตว่า บิ๊กตู่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ให้ ไฟเขียว สว.ในสายเทคะแนนหนุนเศรษฐา ตรงตามโผไม่มีผิดเพี้ยน 
 แต่ที่ฮือฮา คือการที่มี 16สส. จาก พรรคประชาธิปัตย์ โหวตสวนมติพรรคว่าให้ งดออกเสียงด้วยเหตุนี้ 16สส.กลุ่มนึ้จึงกลายสภาพเป็น งูเห่า ไปในพริบตา !


 ในความเป็นจริงแล้ว แม้ก่อนหน้านี้จะเคยมีกระแสข่าวสะพัดมาแล้วว่า สส.ในกลุ่มของ เฉลิมชัย ศรีอ่อน รักษาการเลขาธิการพรรค ซึ่งมีด้วยกัน 19 เสียงต้องการไปร่วมรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทย แต่ติดปัญหาที่พรรคประชาธิปัตย์ ไม่สามารถจัดการประชุมใหญ่ได้สำเร็จ ทำให้ไม่มีการเลือก กรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ 


 หลักใหญ่ใจความคือการที่กลุ่มเฉลิมชัย กับกลุ่มอำนาจเก่า ที่มี อดีตหัวหน้าพรรค มีความคิดที่ สวนทาง กันสิ้นเชิง ! เพราะกลุ่มอดีตหัวหน้าพรรค ต้องการผลักดัน อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ให้กลับมาทำหน้าที่หัวหน้าพรรค และไม่ต้องการไปร่วมรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทย 


 และจากความเคลื่อนไหวที่เคยเป็นกระแสขัดแย้งปะทุ ครั้งแล้วครั้งเล่า ระหว่างขั้วอำนาจสองฝ่ายภายในพรรค ได้มาถึงบทสรุปสุดท้ายที่การโหวตเลือกนายกฯ เมื่อวันที่ 22 ส.ค.ที่ผ่านมา เมื่อ นายกชาย เดชอิศม์ ขาวทอง สส.สงขลา นำทีม16สส.ในกลุ่มโหวตลงมติ เห็นชอบ ให้เศรษฐา นั่งนายกฯ 


 อย่างไรก็ดี สส.กลุ่มเฉลิมชัย-เดชอิศม์ นั้นแม้จะยกมือหนุนเศรษฐา 16เสียงแต่ตัวเลขจริงที่มีในสังกัดคือ 21 สส. แต่เนื่องจากมีบางส่วนลงมติด้วยการ งดออกเสียง ไปแล้วจึงไม่สามารถเปลี่ยนมาลงมติ เห็นชอบ ด้วยอีกได้ 


 สิ่งที่จะเกิดขึ้นตามมาจากนี้ หลัง ความขัดแย้ง ได้ดำเนินไปจนสู่ ความแตกแยก อย่างชัดเจน คือการที่ กรรมการบริหารพรรคชุดรักษาการ จะดำเนินการตั้งกรรมการขึ้นมาสอบสวน โดยสมาชิก 20 คน เพื่อพิจารณาว่าทำให้พรรคเสื่อมเสียหรือไม่ และหากพบว่าเข้าข่ายสร้างความเสียหายและทำให้เกิดความแตกแยก โทษหนักถึงขั้นถูก ขับออก จากพรรค 


 แน่นอนว่าสำหรับกลุ่ม 16สส.ที่ฝ่ามติพรรคไปโหวตให้กับแคนดิเดตนายกฯของพรรคเพื่อไทย ย่อมประเมินได้อยู่แล้วว่า พวกเขาจะต้องเจอกับอะไร แต่อาจจะคุ้มเสียยิ่งกว่าคุ้ม เพราะมีรายงานว่า พรรคเพื่อไทยเตรียม เก้าอี้รัฐมนตรี เอาไว้ให้แล้ว อย่างน้อย 2 ที่นั่งในครม.ใหม่ เสียด้วย !