แม้การจัดสรรคเก้าอี้รัฐมนตรี ในรัฐบาลใหม่ เศรษฐา 1  อาจไม่ได้ทำให้ใครหลายคนสมหวังและพึงพอใจไปเสียทั้งหมด  หลายกระทรวงที่อยู่ในมือ พรรคร่วมรัฐบาล และ พรรคเพื่อไทย ลงตัวเรียบร้อยแล้ว เกือบร้อยเปอร์เซ็นต์  


 แต่เมื่อนี่คือ รัฐบาลผสม  เกิดจากการจับมือด้วยกันหลายพรรค  โดยมีพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำหลักในการจัดตั้งรัฐบาล ฝ่าพายุการเมือง กันมาได้อย่างดุเดือด จากวันเปิดดีลเจรจาจับขั้ว จนมาถึงวันโหวตนายกฯคนที่ 30 เมื่อวันที่ 22 ส.ค.66 ซึ่งจะเห็นได้ว่าเรื่องของการเมืองนั้น มีความซับซ้อน ไม่อาจมองได้เพียงด้านเดียว
 

เมื่อสว.ในสาย บิ๊ตตู่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม พร้อมใจกันเทคะแนนโหวตสนับสนุนชื่อ เศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกฯจากพรรคเพื่อไทย สูงถึง152 เสียง ตามรายงานข่าวก่อนหน้านี้ไม่มีผิดเพี้ยน 


 เท่ากับว่านี่คือ สัญญาณ บวก ที่ทอดไปยังการจับมือตั้งรัฐบาล 11 พรรค 314 เสียง  จากนั้นตามมาด้วย นาทีประวัติศาสตร์ เมื่อ เศรษฐา ภายหลังเข้าพิธีรับการโปรดเกล้าฯ เป็นนายกฯคนที่ 30 อย่างเป็นทางการ ได้เดินทางเข้าทำเนียบรัฐบาล เพื่อมาพบและพูดคุยกับพล.อ.ประยุทธ์ เกิดเป็นภาพชื่นมื่น แม้ไม่ถึง สลายความขัดแย้ง แต่นี่คือการชี้ให้เห็นว่า สงครามการเมือง คงไม่เกิดขึ้นซ้ำอีก 


 แม้ภาพที่เศรษฐา เป็นฝ่ายเดินเข้าทำเนียบฯ จะขัดใจ ขัดตา ฝ่ายที่ไม่สนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ ก็ตาม แต่เมื่อระดับ ฝ่ายตัดสินใจ กำหนดเกมการเล่นกันแล้ว ฉากจบ ที่สวยที่สุด จึงออกมาเช่นนี้ 


 สัญญาณปรองดอง ระหว่าง เสื้อสี อาจยังไม่สวยงามและเดินไปถึงจุดที่เรียกว่า เลิกแล้วต่อกัน อย่าลืมว่าประวัติศาสตร์การต่อสู้ทางแนวคิดทางการเมือง ระหว่างคนเสื้อแดง คนเสื้อเหลือง และเสื้อหลากสีในนามกลุ่มกปปส. นั้นมีความสูญเสีย มีผู้คนบาดเจ็บและเสียชีวิตเกิดขึ้น 


 แต่อย่างน้อยที่สุด  เวลานี้สัญญาณปรองดอง ระหว่างขั้วอำนาจเก่า ที่มีพล.อ.ประยุทธ์ อยู่แถวหน้า กับขั้วอำนาจของอดีตนายกฯทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯคนที่23  อาจลดทอนความดุเดือด และมี ทางเดิน ให้เดินกันต่อ 


 ยิ่งเมื่อในการจัดสรรเก้าอี้ สนามไชย1 หรือ รมว.กลาโหม นั้นว่ากันว่าถูก ล็อค เอาไว้ตั้งแต่แรก ว่าต้อง เว้นที่เอาไว้ให้กับ พล.อ.ประยุทธ์ ที่จะส่งคนที่ไว้ใจได้เข้ามานั่ง คุมกระทรวงกลาโหม ดูแล กองทัพ ต่อ  แม้ก่อนหน้านี้จะมีข่าวหลุดออกมาเป็นระยะๆว่า  ฝ่ายการเมือง เตรียมส่งคนเข้าไปนั่ง แต่ในความเป็นจริงแล้ว เก้าอี้ สนามไชย1  นั้นมีชื่อ บิ๊กเล็ก พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ อดีตเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) เป็นโควตาคนนอก ที่คนในพรรคเพื่อไทยเองก็รู้ดี ต้องเว้นว่างเอาไว้ อยู่แล้ว !