ภารกิจของ นายกฯคนใหม่ วันนี้ ต้องยอมรับว่ามีหลายประเด็นที่ เศรษฐา ทวีสิน ต้องพยายาม ลดโทน ในบางเรื่อง แล้วไปเพิ่ม ความเข้มข้น ในประเด็นที่จับต้องได้ โดยเฉพาะเรื่องการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ


 ด้วยเหตุนี้ สัญญาณที่ถูกส่งมาจากบรรดา ว่าที่รัฐมนตรี และทีมงานด้านเศรษฐกิจจึงออกมาในทิศทางที่มุ่งแก้ไขปัญหาปากท้องให้กับประชาชน ซึ่งการประชุมครม.นัดแรก เมื่อนายกฯเศรษฐา นำรัฐมนตรีใหม่เข้าถวายสัตย์ฯ และแถลงนโยบายต่อรัฐสภา ครบทุกกระบวนความขั้นตอนแล้ว ได้ประกาศปักหมัดกันเอาไว้ที่การพิจารณา เรื่องสำคัญ คือการเตรียมประกาศลดค่าไฟฟ้า ค่าน้ำมัน 


 ล่าสุด จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์  รมช.คลัง เปิดเผยผ่านเพจพรรคเพื่อไทย ระบุว่า เตรียมเดินหน้าลดราคาพลังงาน พรรคเพื่อไทย ให้คำมั่นไว้ จะดำเนินการทันทีใน การประชุม ครม. ครั้งแรก หลังการแถลงนโยบายต่อรัฐสภา เพื่อลดภาระประชาชน และส่งเสริมการดำเนินการทางเศรษฐกิจ (การผลิตและการขนส่ง)


 ลดราคาน้ำมันทันที ลดราคา น้ำมันดีเซล ทันทีโดยใช้กลไกการปรับลดภาษีสรรพสามิต ระยะต่อไปจะเร่งหารือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด เพื่อปรับโครงสร้างราคาและภาษี ให้ราคาปรับลดลงอย่างยั่งยืน ราคา น้ำมันเบนซิน จะมีการพิจารณาช่วยเหลือชดเชยแบบเฉพาะกลุ่มลดค่าไฟทันที 


 หากจะบอกว่า รัฐบาลเพื่อไทย คงไม่มีเวลาสำหรับการฮันนีมูน ฉลองการได้เป็นรัฐบาลใหม่ ก็คงไม่ผิดนัก เพราะอย่าลืมว่า ในห้วงเกือบสามเดือนที่ผ่านมาหลังการเลือกตั้ง ในเดือนพ.ค. กว่าที่จะสามารถตั้งรัฐบาล และเลือกนายกฯคนใหม่ กันจนลุล่วงได้สำเร็จนั้น พรรคเพื่อไทย อยู่ในสภาพที่ต่างจาก ตำบลกระสุนตก 


 และการเผชิญหน้ากับสถานการณ์ที่ถูกกดดันทางการเมืองอย่างรุนแรง ทำให้พรรคเพื่อไทย กระทบทั้งพรรค ตั้งแต่ ทีมเจรจา ที่นำโดย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ,ภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรคและ ประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรค ไปจนถึง อุ๊งอิ๊ง แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย   อยู่ในสภาพที่เรียกว่าบอบช้ำ สะบักสะบอมไปตามๆกัน 


 ดังนั้นเมื่อ จึงไม่น่าแปลกใจที่จะพบว่า เหตุใดพรรคเพื่อไทยต้องรีบออกจาก คิลลิ่งโซน ออกจากจุดเสียหายทางการเมือง แล้วเดินหน้าไปสู่การทำหน้าที่ ฝ่ายบริหาร ในฐานะรัฐบาลใหม่โดยเร็ว หมายความว่า พรรคเพื่อไทยเลือกที่จะเปลี่ยนเข้าไปเล่นในสนามที่มีความถนัด คือการพลิกฟื้นด้านเศรษฐกิจ  เข้าถึงพี่น้องประชาชนเหมือนเมื่อครั้งที่รัฐบาลไทยรักไทย และพลังประชาชน เคยทำมาแล้ว ส่วนประเด็นเรื่องความขัดแย้งในทางการเมืองนั้น แม้พรรคเพื่อไทย จะรู้ดีว่าการอยู่ร่วมเป็น รัฐบาลผสม 11 พรรคการเมืองนั้น ไม่มีอะไรที่มมั่นใจได้ว่า ราบรื่น ก็ตามที