ดูเหมือนว่า  การเข้ามาทำหน้าที่ สนามไชย1 ของ สุทิน คลังแสง เป็นเหมือน ของร้อน  ที่พรรคเพื่อไทย ส่งมาให้เขาไปแล้วโดยปริยาย ! แม้ยังไม่ทันที่สุทิน จะเดินทางเข้ารับตำแหน่ง รมว.กลาโหม  อย่างเป็นทางการ โดยถือฤกษ์ดีเลข 13  เข้ากระทรวงไปแล้วเมื่อวันที่ 13 ก.ย.66 ที่ผ่านมา ปรากฏว่าเจ้าตัวถูกถล่มอย่างหนักจากการประชุมรัฐสภา ในการพิจารณาการแถลงนโยบายรัฐบาล จาก พรรคก้าวไกล พรรคฝ่ายค้านที่ดูท่าว่าจะพกเอา ความแค้น เข้าที่ประชุม 
 
อย่าลืมว่า ระหว่าง พรรคเพื่อไทยกับพรรคก้าวไกลนั้น จบไม่สวย เมื่อทั้งคู่ ไม่สามารถเดินหน้าตั้งรัฐบาลไปด้วยกันได้ จากนั้นพรรคเพื่อไทย พลิกไปจับมือ ข้ามขั้ว กับพรรคฝ่ายขั้วอำนาจเก่า โดยเฉพาะการดึง พรรครวมไทยสร้างชาติและพรรคพลังประชารัฐ เข้าร่วมรัฐบาล
 
การอภิปรายนโยบายด้านความมั่นคง จากสส.พรรคก้าวไกล ไม่เพียงแต่จะตั้งคำถามเรื่องราวของกองทัพที่เรียกร้องให้ รมว.กลาโหม คนใหม่ เข้าไปดำเนินการให้สำเร็จทั้งการดูเรื่องงบลับ การจัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ และการปฏิรูปกองทัพ แต่ที่หนักหนาสาหัสไปกว่านั้น คือการอภิปรายพุ่งเป้าโจมตี ไปที่สุทิน  ในท่วงทำนองว่า จะดำรงตนในฐานะ เจ้ากระทรวง แบบไหน
 
 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม อย่างสุทิน จะเป็นเพียง แมสเซนเจอร์ รับคำสั่งจาก กองทัพ  แล้วมาส่งต่อยัง รัฐบาล เท่านั้นหรือไม่ แน่นอนว่าสิ่งที่เกิดขึ้นในการอภิปรายโดยพรรคก้าวไกล ในฐานะฝ่ายค้านย่อมทำให้ เศรษฐา ทวีสิน นายกฯและรมว.คลัง รวมทั้งสุทิน เอง ต้องลุกขึ้นตอบโต้ เพราะเป็นการไม่ให้เกียรติกันจนเกินไป  เพราะหลายคนย่อมรู้ดีว่าพรรคก้าวไกล มองและคิดอย่างไรกับกองทัพ  แต่สำหรับสุทิน และรัฐบาลใหม่ ย่อมมองในมุมที่แตกต่างออกไป

 การใช้คำว่า พัฒนาร่วม แทน ปฏิรูป ที่สุทินนำมาชี้แจงในสภาฯ โต้กลับฝ่ายค้าน ว่านี่มิติแห่งการมอง เป้าหมาย ของการทำงานร่วมกันระหว่าง พลเรือน ที่เข้าไปนั่งรมว.กลาโหม กับ ผู้นำเหล่าทัพ  ซึ่งแน่นอนว่าต้องไม่ใช่การเผชิญหน้า  หรือคิดแต่จะ หัก กันอย่างเดียว 

 การรบรา และรับมือกับ ฝ่ายค้าน อย่างพรรคก้าวไกล อาจไม่น่าหนักใจเท่ากับ คนกันเอง อย่างคนเสื้อแดง สหายที่เคยร่วมรบกับพรรคเพื่อไทยมาตั้งแต่ยังเป็นพรรคไทยรักไทย เมื่อล่าสุด ผศ.พรรณวดี ตันติศิรินทร์ ที่ปรึกษาเครือข่ายกลุ่มสตรี 20 จังหวัดภาคอีสานและอดีตแกนนำคนเสื้อแดง ภาคอีสาน ออกมาเรียกร้อง ให้สุทิน นำ คณะทำงาน   ที่มีชื่อปรากฏในข่าวว่า เคยเป็นกลุ่มคนที่เคยทำร้ายคนเสื้อแดงมาก่อน มาขอโทษ ขอขมา พูดคุยทำความเข้าใจ ขออภัยกัน ต่างฝ่ายต่างก็มีกรณีขัดแย้งซึ่งกันและกันอยู่แล้ว 

 ปัญหาความขัดแย้งระหว่าง กองทัพ กับ คนเสื้อแดง  คือเรื่องละเอียดอ่อน ที่สุทิน และพรรคเพื่อไทย จะเลือกแนวทางใด เพื่อให้ทุกอย่างเดินหน้าไปได้อย่างราบรื่น ไม่สูญเสียมวลชน และไม่กระทบต่อการอยู่ร่วมกับกองทัพ !?