การปรากฏตัวของ บิ๊กป้อม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ  หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่ทำการพรรคเมื่อวันที่ 3 ต.ค.66 ล่าสุด  ดูจะสร้างความฮือฮาไปพร้อมๆกับการสร้างกำลังใจให้กับบรรดาลูกพรรคอย่างชัดเจน ! 


 หลังจากที่ก่อนหน้านี้ บรรยากาศที่พรรคดูจะเงียบเหงาไปถนัดใจ เมื่อไม่มีเงาของบิ๊กป้อม ย่างกรายเข้ามา  ล้อไปกับกระแสข่าวที่ว่าแม้วันนี้พลังประชารัฐ จะดำรงความเป็น พรรคการเมือง แต่หาก พฤตินัย แล้ว กลับเงียบสงัด แตกต่างจากเมื่อครั้ง รัฐบาลลุงตู่ ซึ่ง พล.อ.ประวิตร และพรรคพลังประชารัฐ เต็มไปด้วยความคึกคัก 
 ล่าสุดเมื่อ นฤมล สินภิญโญวัฒน์ แจ้งลาออกจากทุกตำแหน่งในพรรคพลังประชารัฐ  ทำเอาคอการข่าวฮือฮา ว่าเกิดอะไรขึ้น  แต่ทั้ง ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ในฐานะเลขาธิการพรรค และ สันติ พร้อมพัฒน์ ในฐานะรองหัวหน้าพรรค ต่างประสานเสียงในโทนเดียวกันว่าเพิ่งรู้เรื่องการลาออกจากสื่อ และที่ผ่านมาต่างก็ไม่ได้คุยกัน 
 ทั้งนี้เมื่อวันที่ 3 ต.ค.ที่ผ่านมามีคำสั่งแต่งตั้ง นฤมล ให้นั่งในตำแหน่งที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี พ่วงด้วย ผู้แทนการค้าไทย อีกหนึ่งเก้าอี้ 
 ยิ่งทำให้เกิดข้อสงสัยว่า สถานการณ์ภายในพรรคพลังประชารัฐ ณ วันนี้เป็นเช่นใด ? 


 แม้พรรคพลังประชารัฐจะได้เข้าร่วมขบวน เศรษฐา1 แต่ดูจะเป็นที่รับรู้กันก่อนหน้านี้ว่า พรรคกลับได้รับเก้าอี้รัฐมนตรี เท่ากับ พรรครวมไทยสร้างชาติ ทั้งที่พรรครวมไทยสร้างชาติ ได้สส.น้อยกว่า แต่ด้วยสถานการณ์ทางการเมืองที่ บีบ ให้ทุกฝ่ายต่างต้องตัดสินใจเข้าร่วมรัฐบาล 314เสียง จับมือกับ 11พรรค ตั้งรัฐบาลใหม่ จึงจำเป็นต้อง วาง ความขุ่นข้องหมองใจเอาไว้ก่อน 


 อย่างไรก็ตาม ล่าสุดเมื่อวันที่ 3 ต.ค.ที่ผ่านมา บิ๊กป้อม พล.อ.ประวิตร เดินทางเข้าที่ทำการพรรคพลังประชารัฐ เพื่อเป็นประธานเปิดการอบรมหลักสูตรการเสริมสร้างศักยภาพให้กับ สส.ของพรรค พร้อมทั้งชี้แจงว่าที่หายหน้าหายตาไป เนื่องจากไปดูกีฬาเอเชียนเกมส์ที่ประเทศจีน รวมถึงมีอาการไม่ค่อยสบายจึงได้หยุดงานไปสองอาทิตย์
 การเปิดอบรมหลักสูตรเพื่อพัฒนาศักยภาพสส. ของพรรค  ยังไม่เท่ากับการปรากฏตัวของบิ๊กป้อม เพื่อตอกย้ำว่า ไม่ว่าจะมีข่าวลือ หรือใครจะย้ายออกจากพรรค หลังจากนี้ แต่พลังประชารัฐ ยังไม่แตก  ขอให้เชื่อมั่น เท่ากับว่า เมื่อยังมี บิ๊กป้อม ก็ยังต้องมี พลังประชารัฐ เว้นแต่การเลือกตั้งครั้งหน้ามาถึงการเปลี่ยนแปลงก็อาจจะเกิดขึ้นได้ !