เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง  ยังคงอยู่ในช่วงของการเดินสายเยือนนานาประเทศ ภายหลังเข้ารับตำแหน่ง นายกฯคนที่30 อย่างเป็นทางการ แต่ในขณะเดียวกัน ในระหว่างที่ผู้นำรัฐบาลไทย ต้องไปปฏิบัติภารกิจต่างประเทศ นั้นปัญหาในทางการเมืองและปฏิบัติการช่วยเหลือ แรงงานไทย จากอิสราเอลกลับแผ่นดินเกิด หนีไฟสงคราม ยังต้องเดินหน้าต่อไป 

 แต่การเดินหน้าต่อผลักดัน นโยบายเรือธง อย่าง แจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต รายละ 1หมื่นบาท ได้กลายเป็นเหมือน ของร้อน ที่ทำให้นายกฯเศรษฐา ไปจนถึงรัฐมนตรี และสส.ของพรรคเพื่อไทย ต้องออกมาเปิดหน้า โต้คืน หลังจากที่ เป็นฝ่าย ถูกถล่ม ทั้งในแง่ประเด็นทางการเมือง ไปจนถึงความห่วงใยจาก นักเศรษฐศาสตร์  นักวิชาการ อดีตนักการธนาคาร ที่ดูจะมี น้ำหนัก ทำให้รัฐบาล กระทบ ไม่น้อย 
 
การลงพื้นที่ของนายกฯเศรษฐา พร้อมด้วยคณะเมื่อวันเสาร์ที่ 14 ต.ค.ที่ผ่านมา ที่จังหวัดพิษณุโลก พบว่ามีประชาชนไปยกป้ายต้อนรับ และ สนับสนุน นโยบายแจกเงินดิจิทัล ซึ่งน่าจะทำให้นายกฯเศรษฐา ได้พอยิ้มออก 


 และในการลงพื้นที่ล่าสุด ที่โรงผลิตน้ำประปา ที่เทศบาลนครพิษณุโลก จ.พิษณุโลก นายกฯเศรษฐา ยังได้พูดกับพี่น้องประชาชนที่ไปรอต้อนรับคณะ ตอนหนึ่งถึงนโยบายแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต ว่าหากใครเห็นว่าดี และชอบ ก็ขอให้ช่วยกันออกมาพูดสนับสนุนด้วย 


 ท่านอย่ายอมให้คนที่ไม่เห็นด้วยโดยไม่มีเหตุผลมายับยั้งโครงการนี้ ถ้าชอบก็ขอให้พูดบ้าง ให้เปล่งเสียงออกมาบ้าง เรื่องลดค่าไฟค่าน้ำมันต้องพูด อย่างภาคอุตสาหกรรมที่ลดค่าไฟ ค่าน้ำมัน ท่านต้องออกมาพูดว่า ท่านมีความสุข ดีใจที่รัฐบาลนี้ทำให้
 
 เราเองก็เป็นคนเหมือนกัน ต้องการขวัญและกำลังใจเหมือนกัน บางคนที่มาด้วยกันวันนี้ก็อยากอยู่บ้าน แต่วันนี้เข้าใจปัญหาประชาชนก็มารับฟังปัญหา เราไม่ได้มาหาเสียงแต่เรามาทำงานจริง (14ต.ค.66) 
 
จากนั้นเมื่อวันที่ 15ต.ค.ปรากฎว่า ประเทศ วะโลลม   แกนนำเกษตรกร ชาวบ้านในพื้นที่ อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม ในพื้นที่ของ  มนพร เจริญศรี  รมช.คมนาคม ในฐานะ สส.นครพนม เขต 2 พรรคเพื่อไทย รวมตัวออกมาประกาศจุดยืน เรียกร้อง ให้รัฐบาล เร่งรัดการจ่ายเงินดิจิทัลวอลเล็ต เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในชุมชน และแก้ปัญหาสภาพคล่อง หลังได้รับผลกระทบจากโควิดระบาด มานานกว่า 2 ปี
  
การที่มีนักวิชาการ คนบางกลุ่ม ออกมาคัดค้าน เพราะไม่เข้าใจถึงสภาพความจน ถ้าไม่เป็นคนจนไม่เข้าใจแน่นอน  แกนนำเกษตรกร ท่าอุเทน ระบุ

 แน่นอนว่าการเดินหน้านโยบายหลักของพรรคเพื่อไทย ยังต้องขยับต่อไป จะให้ล้มเลิก คงเป็นไปไม่ได้ แต่ขณะเดียวกัน อีกด้านหนึ่ง กำลังปรากฏชัดเจนว่า ฝ่ายคัดค้าน คงไม่หยุดลงหลังส่งเสียงท้วงติง วิพากษ์วิจารณ์ แต่มีแนวโน้มว่า จะใช้ หลักกฎหมาย เข้ามาดำเนินการให้ตรวจสอบนโยบายดังกล่าว

 ทว่าเหนืออื่นใด สิ่งที่สำคัญสำหรับพรรคเพื่อไทยและนายกฯ เวลานี้คือความเชื่อมั่น ที่จะต้อง ตรึง เอาไว้ให้ได้ โดยเฉพาะความเชื่อมั่นจากประชาชน ที่เลือกพรรคเพื่อไทยเข้ามาได้ถึง 141 ที่นั่งสส. !