ในท่ามกลางเสียงปี่เสียงกลองทางการเมืองที่อึกทึก ทั้งฝั่งรัฐบาล ที่นำโดย พรรคเพื่อไทย เตรียมเดินหน้าแข็งขันกับ นโยบายเรือธง อย่าง นโยบายแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต  โดยในวันที่ 10 พ.ย.66 นี้ ต้องรอฟังทุกความชัดเจนจาก เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง 


 เมื่อมองไปยังพรรคก้าวไกล พรรคแกนนำฝ่ายค้านเองที่วันนี้ต้องยอมรับว่า อยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก จากปัญหา สส.ในพรรคถูกร้องเรียนกรณีคุกคามทางเพศ จนนำมาสู่ขั้น ขับพ้นพรรค ทั้ง2รายคือ วุฒิพงศ์ ทองเหลา สส.ปราจีนบุรี และ ไชยามพวาน  มั่นเพียรจิตต์  สส.กทม. ทำให้2 สส.ต้องเร่งหาพรรคใหม่สังกัด 


 แต่สำหรับ พรรคพลังประชารัฐ ที่วันนี้ยังมี บิ๊กป้อม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ  นั่งเป็นหัวหน้าพรรค กลับเต็มไปด้วยความเงียบงัน และดูเหมือนว่าจะมีเพียงขั้วอำนาจของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า  รมว.เกษตรฯ ในฐานะเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ ที่โดดเด่น และมีรายงานว่าเป็นขั้วอำนาจที่คุมความเป็นไปของพรรคมากกว่าขั้วอื่น 


 การไม่ปรากฏตัวของบิ๊กป้อม พล.อ.ประวิตร นับตั้งแต่หลังการเลือกตั้งเมื่อเดือนพ.ค.ที่ผ่านมา ทำให้ถูกจับตา และตั้งข้อสังเกตที่เชื่อมโยงไปถึง สถานะ ของพรรคพลังประชารัฐ ที่วันนี้ได้เป็นหนึ่งในพรรคร่วมรัฐบาล เป็นหนึ่งใน พรรคลุง ที่พรรคเพื่อไทยเคยประกาศว่าจะไม่ร่วมรัฐบาลด้วย ก่อนเลือกตั้ง 


 ทั้งนี้ ในความเงียบของพรรคพลังประชารัฐ ถูกจับตาล้อไปกับท่าทีของบิ๊กป้อม ที่ใช้วิธีโลวโปรไฟว์ เก็บตัว ลดบทบาททางการเมือง ขณะที่ก่อนหน้านี้เคยมีรายงานข่าวว่า ภายในพรรคพลังประชารัฐเอง เกิดรอยร้าวระหว่าง ร.อ.ธรรมนัส กับ บิ๊กป๊อด พล.ต.อ.พัทรวาท วงษ์สุวรรณ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.)  และก็เป็นร.อ.ธรรมนัส ที่เดินเกมในการจัดตั้งรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทยมาตั้งแต่แรก 


 อย่างไรก็ดี มีรายงานว่า นอกเหนือไปจากกลุ่มอำนาจของร.อ.ธรรมนัส ที่กำลังถูกมองว่าทางหนึ่งคือการมีบทบาทในพรรคไปพร้อมๆกับการมีความสัมพันธ์อันดีกับพรรคเพื่อไทย ดังนั้นหมายความว่าสมาชิกพรรค ที่ไม่ได้อยู่ในสังกัดร.อ.ธรรมนัส เอง จึงอาจต้อง มองหาหนทางใหม่ มองหาพรรคการเมืองใหม่ สำหรับการเลือกตั้งรอบหน้า 
 เพราะอย่าลืมว่า แม้วันนี้พล.อ.ประวิตร จะนั่งในตำแหน่งหัวหน้าพรรค แต่เมื่อ บทนำ อาจไม่ได้อยู่ที่ตัวบิ๊กป้อม ย่อมส่งผลกระทบต่อการตัดสินใจของ นักการเมือง ไปจนถึง กลุ่มทุน ที่จะเทสรรพกำลังลงมาในการเลือกตั้งรอบหน้า จะเบนเข็ม ย้ายการสนับสนุน ไปยังพรรคการเมืองใหม่ที่มีโอกาสแทนหรือไม่ 


 ดังนั้นการที่ยังมีชื่อพล.อ.ประวิตร  นั่งในตำแหน่งหัวหน้าพรรค แต่อาจไม่ใช่ แม่เหล็ก ในทางการเมืองเหมือนในวันวานอีกต่อไป ด้วยเหตุนี้มีรายงานว่า เมื่อใดที่พล.อ.ประวิตร  ประกาศวางมือทางการเมืองชัดเจนเมื่อใด จะเกิดภาวะ ผึ้งแตกรัง ตามมาทันที 


 จากนั้นบรรดาสมาชิกอาจมีทางเลือก หาบ้านหลังใหม่เพื่อสังกัด ไม่ว่าจะเป็น สายของร.อ.ธรรมนัส ที่อาจจะไปอยู่ที่พรรคเพื่อไทย บางส่วนขยับไปอยู่ที่พรรครวมไทยสร้างชาติ หรือแม้แต่พรรคก้าวไกล ก็อาจเป็นหนึ่งในทางเลือกในวันข้างหน้า !?