วันที่ 9 ธ.ค.66 นี้ยังต้องลุ้นกันต่อไปว่า ที่สุดแล้ว พรรคประชาธิปัตย์ จะได้ หัวหน้าพรรคคนใหม่ หรือไม่ ? หรือความวุ่นวาย อันเกิดจาก ความขัดแย้ง กันเองภายในพรรคจะกลายเป็น สนิมเนื้อใน ที่เขย่าพรรคการเมืองเก่าแก่ ที่มีอายุถึง 77ปี ให้มีอันต้องพังลงไปหรือไม่ 
 หากนับนิ้วไล่เรียงกันจริงๆ จะพบว่า จากนี้ ไปถึงวันประชุมใหญ่ 9 ธ.ค.นี้ เหลือเวลาอีกไม่กี่อึดใจ

ที่ทั้ง สองขั้วอำนาจจะต้องออกแรง ล็อบบี้ ฝ่ายสนับสนุนของตนเองกันเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นฟาก กลุ่มเพื่อนต่อ ซึ่งมี เฉลิมชัย ศรีอ่อน นั่งรักษาการด้วยกันถึงสองเก้าอี้ ทั้ง เลขาฯ  และ หัวหน้าพรรค โดยกลุ่มนี้ถือว่ากุมอำนาจในพรรค เหนือกว่า ขั้วเก่า ที่มี ผู้อาวุโส คือ อดีตหัวหน้าพรรค ทั้ง ชวน หลีกภัย-บัญญัติ บรรทัดฐาน- จุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์  แน่นอนว่าขั้วนี้ไม่เอาด้วยกับ กลุ่มเพื่อนต่อ  
 
ทั้งนี้แฟนพันธุ์แท้ แฟนคลับของ พรรคประชาธิปัตย์  คงไม่มีใครคาดว่าวันนี้พรรคการเมืองที่มีอายุเก่าแก่ถือเป็น สถาบันทางการเมือง จะต้องเผชิญกับ ความขัดแย้ง ที่ยืดเยื้อ เรื้อรัง มิหนำซ้ำยังเกิดเอาตอนที่พรรคเป็น ฝ่ายค้าน เท่ากับว่า แพ้เลือกตั้ง ยังไม่พอ ยังมีแพ้เพราะคนกันเอง 
 
 สารพัดสูตร ที่ถูกเสนอผ่านสื่อ เหมือนต้องการ โยนหินถามทาง  ว่าสูตรไหน ถึงจะทำให้ สองขั้วอำนาจ ต่าง รับกันได้ แต่จนถึงวันนี้ ดูจะเป็นเรื่องยากเสียแล้ว  เพราะบรรดา แคนดิเดตหัวหน้าพรรคคนใหม่ ไม่ว่าจะเป็นชื่อ มาดามเดียร์ วทันยา บุนนาค ดร.เอ้  สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ และ นราพัฒน์ แก้วทอง รองหัวหน้าพรรค จากพรรคภาคเหนือซึ่งเจ้าตัวแสดงเจตนารมณ์ว่าจะขอลงชิงเก้าอี้ด้วยรอบนี้ 

 แต่ว่ากันว่า ศึกชิงเก้าอี้หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รอบนี้ เบอร์ใหญ่ อาจจะลงมาชิงเองหรือไม่ เพราะมีรายงานว่า ปลายสัปดาห์ที่แล้ว กองหนุน เริ่มขยับขอให้ เฉลิมชัย  ลงมารับตำแหน่งหัวหน้าพรรค เพราะพร้อมด้วยบารมี และทุนรอน  ที่สำคัญเพื่อป้องกัน พรรคแตก  แสดงว่าหาก เสี่ยต่อ เฉลิมชัย ลงมาลุยเอง ปีก ผู้อาวุโส  ของพรรคจะยกธงขาวแล้วหรือไม่ ? 

 อย่าลืมว่า ในขั้วอำนาจเก่า ผู้อาวุโสของพรรคเอง หากจะยอมรับ คนจากฝ่ายกลุ่มเพื่อนต่อ หรือชื่อของนราพัฒน์ ที่ได้รับการสนับสนุนจากกลุ่มเฉลิมชัย ปัญหาความขัดแย้งต่างๆก็คงยุติไปแล้ว ก่อนหน้านี้  หรือมีความเป็นไปได้ว่าหากปีกกลุ่มเพื่อนต่อ ของเฉลิมชัย ส่งนราพัฒน์ ลงมาชิงหัวหน้าพรรค  ก็กลายเป็นโจทย์ยาก หากกลุ่มผู้อาวุโส ไม่หนุนกับ สูตรปรองดอง แม้นราพัฒน์ เองจะถูกมองว่า เข้าได้กับทุกคน และไม่ใช่แนวฮาร์ดคอร์ 

 แต่หากนราพัฒน์ ต้องเจอกับคู่แข่งฝั่งตรงข้ามที่จะดัน เบอร์ใหญ่ ลงมาเอง ภายหลังจากที่มีชื่อ จุรินทร์อาจจะกลับมาแข่งอีกรอบ รวมทั้งยังต้องไม่ลืมว่า กองหนุนในประชาธิปัตย์เอง ยังมีไม่น้อยที่หวังว่า อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ  อดีตหัวหน้าพรรค จะคัมแบค กลับมาเพื่อฟื้นฟูพรรค 
 
ตัวแปรในการต่อสู้ ศึกในของพรรค ยังมีโอกาสผกผัน พลิกเกม ได้ทุกเมื่อ จนกว่าจะถึงวันประชุมใหญ่ของพรรค 9 ธ.ค.นี้