จาก ข่าวลือ กลายเป็น เรื่องจริง  เมื่อล่าสุด ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ  ประธานคณะก้าวหน้า ออกมายอมรับกลางรายการข่าวชื่อดัง ว่าเขาเคยเดินทางไปต่างประเทศเพื่อพบกับ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี คนที่ 23 จริง 


 ธนาธร ให้สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 20 พ.ย. 66 ในรายการ กรรมกรข่าว คุยนอกจอ ถึงประเด็นเรื่องการที่รัฐบาลประกาศจะออกพ.ร.บ.กู้เงิน 5 แสนล้านบาท เพื่อใช้ในโครงการแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต 1หมื่นบาท โดยในตอนหนึ่ง ธนาธร ยอมรับว่า เขาได้เดินทางไปพบ ทักษิณ ที่ฮ่องกง ในช่วงการจัดตั้งรัฐบาล ก่อนที่พรรคเพื่อไทยจะขยับขึ้นมาเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลแทนพรรคก้าวไกล 


 เป็นปกติที่เราพบปะพูดคุยกับนักการเมืองทั่วไป คุยเรื่องชีวิต เช่น ชีวิตมีหลานแล้วเป็นอย่างไรบ้าง แต่ไม่ได้ไปต่อรองเรื่องจัดตั้งรัฐบาล เพราะตนเองไม่มีตำแหน่งในการเมือง และก็อาจจะโดนยุบพรรคถ้าไปต่อรอง (20พ.ย.66) 


 แน่นอนว่าคำตอบของธนาธร ทำให้ คอการเมือง ต่างหันมาให้ความสนใจ  เพราะก่อนหน้านี้ ทั้งตัวธารธรเอง ไปจนถึงแกนนำคณะก้าวหน้า ต่างออกมาปฏิเสธกระแสข่าวดังกล่าวชนิดเสียงแข็ง ทั้งการโยนว่าสื่อเขียนข่าวกันขึ้นมาเอง ทั้งการยืนยันว่าในห้วงเวลานั้น คือวันที่ 24-25 ก.ค. ธนาธร ยังอยู่ที่กรุงเทพฯ 


 ขณะที่มีรายงานว่า ธนาธร บินไปหาทักษิณที่ฮ่องกงในวันที่ 24 ก.ค.66 เพื่อพูดคุยเรื่องเงื่อนไขการจัดตั้งรัฐบาล ก่อนที่บินกลับไทยในวันที่ 25 ก.ค. โดยปฏิบัติการครั้งนั้น ถูกเรียกว่า ดีลลับฮ่องกง  เนื่องจากตัวทักษิณ ยังอยู่ต่างประเทศ แต่มีการเปิดเจรจา ตั้งรัฐบาล กันที่นอกประเทศไทย และเป็นที่รู้กันว่า นอกจากธนาธร ประธานคณะก้าวหน้าที่ ไปพบแล้ว ยังมี เดชอิศม์ ขาวทอง  แกนนำพรรคประชาธิปัตย์  ด้วยเช่นกัน 


 สาระสำคัญที่มีการรายงานข่าวออกมาในครั้งนั้น คือการพูดคุยระหว่างทักษิณ กับธนาธร คือการที่พรรคก้าวไกล จะยอมถอย ไปเป็น ฝ่ายค้าน แต่พรรคเพื่อไทยเองก็ต้องไม่ดึง พรรค2ลุง เข้าร่วมรัฐบาล แต่ในที่สุด พรรครวมไทยสร้างชาติและพรรคพลังประชารัฐ เองก็ได้รับ เทียบเชิญ และร่วมอยู่ใน ครม. เศรษฐา1 ในวันนี้ 


 การออกมายอมรับของธนาธร ว่าบินไปพบกับอดีตนายกฯทักษิณ ครั้งนี้ ย่อมทำให้เกิดคำถามทั้งต่อคนในพรรคก้าวไกลเอง ที่ดาหน้าโจมตี พรรคเพื่อไทย ทั้งเรื่องการขับเคลื่อนนโยบายดิจิทัลวอลเล็ต 1หมื่นบาท ไปจนถึงการบริหารงานของรัฐบาล นายกฯเศรษฐา ทวีสิน  อาจต้องทบทวนบทบาทกันใหม่หรือไม่ว่า มีการเจรจา ชั้นความลับ ที่พวกเขาเองยังไม่เคยรับรู้


 ขณะที่ ฝ่ายต่อต้าน พรรคก้าวไกล ทั้งในและนอกสภาฯ ที่เคยเปิดประเด็น และชี้ช่องให้จับตา การเมืองที่พร้อมจะพลิกผัน ได้ทุกเมื่อ เพราะแท้จริงแล้ว ศัตรู อาจกลายเป็น มิตร  พรรคก้าวไกล อาจเป็น หมากสำรอง ของพรรคเพื่อไทย 


 เพราะแม้ระดับ ปลายแถว จะฟาดฟันกัน แต่สำหรับ เจ้าของพรรค กลับต่อสายพูดคุยกันได้ นั่นเอง !