เบรกกันตัวโก่ง ทั้งครม.ที่ยกคณะไปประชุมนอกสถานที่กันถึง หนองบัวลำภู  เพราะงบประมาณก้อนโต ที่คณะกรรมการซอฟต์พาวเวอร์ เสนอขอใช้ มีตัวเลขสูงลิ่วกว่า 5 พันล้านกันเลยทีเดียว ! 
    
การประชุมครม.สัญจร ครั้งแรกก็ต้องมาเจอเรื่องร้อนๆ  เมื่องบประมาณก้อนใหญ่ ตามที่คณะกรรมการซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ มีมติหลังการประชุมนัดที่ 2 เมื่อวันที่ 30 พ.ย.66 ที่ผ่านมา โดยมี “อุ๊งอิ๊ง” แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย เป็นประธานคณะกรรมการฯ มีมติเห็นชอบในหลักการที่แต่ละโครงการ กิจกรรม และอุตสาหกรรมซอฟต์เพาเวอร์ไทยทั้ง 11 ด้าน ได้เสนอ เป็นเงิน  5,164 ล้านบาท 
    
และดูเหมือนว่านับจากวันที่มีความชัดเจนว่าคณะกรรมการซอฟต์พาวเวอร์ฯ เตรียมเสนอของบประมาณ กว่า 5พันล้านบาท ปรากฏว่ามีเสียงวิจารณ์และแรงกระเพื่อม ตามมาทันที !
    
ในที่สุด “เศรษฐา ทวีสิน” นายกฯและรมว.คลัง แถลงภายหลังการประชุม ครม.สัญจร ว่าที่ประชุมจะต้องมาพิจารณาวาระดังกล่าวอีกครั้ง เนื่องจากเม็ดเงินงบประมาณทุกบาท ทุกสตางค์ รัฐบาลให้ความสำคัญ ต้องชี้แจงได้และต้องเป็นประโยชน์กับประชาชนด้วย
    
แน่นอนว่า การขยับของคณะกรรมการซอฟต์พาวเวอร์ฯ ที่มีอุ๊งอิ๊ง นั่งเป็นประธาน ย่อมถูกจับตา ทั้งในประเด็นของการขับเคลื่อน ไปจนถึงการขอใช้งบประมาณกว่า 5พันล้านบาท แล้ว ในขณะเดียวกันอย่าลืมว่า สถานะของอุ๊งอิ๊ง ในฐานะที่เป็น “ลูกสาว” เจ้าของพรรคเพื่อไทยตัวจริง อย่าง “ทักษิณ ชินวัตร”  อดีตนายกฯ ย่อมมีความหมายทั้งต่อพรรคเพื่อไทย ไปจนถึงครม. ที่มีคนของพรรคเข้าไปนั่งเป็นรัฐมนตรี โดยปริยาย 
    
เมื่อการเคลื่อนไหวของคณะกรรมการซอฟต์พาวเวอร์ฯ เกิดขึ้น ย่อมต้องเกิดผลลบและบวก และผลดังกล่าวนั้น อาจกระทบระยะยาวหาก แพทองธาร จะเข้ามามีบทบาทในรัฐบาล มากกว่าตำแหน่งใหญ่ในคณะกรรมการซอฟต์พาวเวอร์ในเวลานี้ 
    
และนอกเหนือไปจากการที่คณะกรรมการฯจะชงเรื่องขอใช้งบ กว่า 5พันล้านบาทแล้ว อย่าลืมว่าในการประชุมวันเดียวกันยังมีแนวคิดจากตัวประธานฯเสนอให้เล่นสาดน้ำในเทศกาลสงกรานต์ตลอดทั้งเดือนเม.ย.ปีหน้า จากเดิมที่เล่นกันเพียง 3 วัน 
    
เสียงวิพากษ์วิจารณ์และแรงต้านที่เกิดขึ้น จากภายนอกกำลังพุ่งเป้าไปยังแพทองธาร  และทำให้ครม.สัญจรที่หนองบัวลำภู ต้องออกมาเบรกวาระเรื่องการขอใช้งบประมาณหลายพันล้าน มีขึ้นไปพร้อมๆกับเสียงโจมตีจากที่ไม่สนับสนุนแนวคิดเล่นสงกรานต์ตลอดทั้งเดือน 
    
แต่เหนืออื่นใด นี่คือ “ภารกิจ” อันหนักหนาสำหรับพรรคเพื่อไทยและรัฐมนตรีในครม. “เศรษฐา 1” ที่ต้องเร่งเคลียร์คัท ไม่ให้แพทองธาร ช้ำไปมากกว่านี้ !