ล้างแค้นกลางสภาฯ 

 ข้อกังขาว่า พรรคเพื่อไทย จะดึง พรรคก้าวไกล เข้าร่วมรัฐบาลในวันข้างหน้าหรือไม่ ตามที่เคยมีกระแสข่าวสะพัดมาก่อนหน้านี้  ยังต้องรอการพิสูจน์ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นเวลานี้ คือการเดินเกมในสภาผู้แทนราษฎร ระหว่างพรรคก้าวไกล พรรคแกนนำฝ่ายค้าน  กับพรรคเพื่อไทย พรรคแกนนำรัฐบาล โดยประเดิมด้วย สภาฯล่ม  วันแรกเมื่อเปิดประชุมสภาฯสมัยสามัญ 13 ธ.ค.66 

 ปัญหาสภาล่มระหว่างการลงมติรับหลักการร่างข้อบังคับการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ฉบับแก้ไข เมื่อวันที่ 13 ธ.ค.ที่ผ่านมา  รังสิมันต์ โรม  สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ออกมาพูดชัดเจนว่า เรื่องนี้ต้องถามกลับไปยังพรรคเพื่อไทย เพราะเคยพูดเอาไว้ว่า การรักษาองค์ประชุมนั้นเป็น หน้าที่ ของฝ่ายรัฐบาล และเมื่อวันนี้ พรรคเพื่อไทย เปลี่ยนสถานะมาเป็นรัฐบาลเสียเอง ก็ต้องทำในสิ่งที่เคยพูดเอาไวให้ได้ 

  หากเปรียบวันแรกการเปิดเทอมนี่ก็คือวันแรกที่นักเรียนจะต้องมาเรียนครบแต่พบว่ากลับมาไม่ถึง 250 คนหรือไม่ถึงกึ่งหนึ่งแปลว่าอะไร เราไม่ได้ตั้งใจจะให้ล่ม ตั้งใจว่าหากเสียงของรัฐบาลถึง 250 ก็ตั้งใจว่าจะเติม  แต่เราต้องการให้ประชาชนได้ตรวจสอบว่า สส.ของรัฐบาลสุดท้ายมากันครบหรือไม่ เพื่อให้ประชาชนได้เห็นว่าการทำงานของรัฐบาลที่อยากจะเข้ามาเป็น สส. กันนักหนาสุดท้ายอยู่ทำหน้าที่หรือไม่ (14 ธ.ค.66) 

 การทำหน้าที่ฝ่ายค้านเพื่อตรวจสอบรัฐบาล โดยเฉพาะพรรคเพื่อไทย นอกเหนือไปจากการที่ต่างฝ่ายต่างทำหน้าที่ โดยเฉพาะพรรคก้าวไกล ชูจุดยืนว่าจะทำหน้าที่ฝ่ายค้านอย่างเข้มแข็ง  แต่หากย้อนกลับไปก่อนหน้านี้ ต่างฝ่ายต่างปฏิเสธไม่ได้ว่า การ แยกทาง กันเมื่อครั้งร่วมจัดตั้งรัฐบาลหลังการเลือกตั้ง ยังทิ้งความบาดหมางมาจนถึงวันนี้ กับกองเชียร์ พรรคก้าวไกล และสมาชิกในพรรคเอง 

 เพราะไม่เพียงแต่พรรคเพื่อไทย จะเลิกจับมือกับ พรรคก้าวไกลเท่านั้น แต่ยังฉีกสัญญา พลิกไปตั้งรัฐบาล ข้ามขั้ว กับพรรคพลังประชารัฐ และพรรครวมไทยสร้างชาติ พรรค 2ลุง อีกด้วยต่างหาก 

 ล่าสุดยังน่าสนใจว่าในการประชุมสภาฯ ต่อจากเมื่อวันที่ สภาฯล่มวันแรก 13ธ.ค.ปรากฎว่า การประชุมสภาฯ เมื่อวานนี้ (14 ธ.ค.66)เพื่อ การพิจารณาร่างข้อบังคับการประชุมสภาฯ (ฉบับที่...) พ.ศ.... ที่เสนอโดย พริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล โดยที่ประชุมลงมติของสภาฯ พบว่า เสียงข้างมาก 233 เสียงไม่รับหลักการ ต่อเสียงรับหลักการ 158 เสียง ถือว่าร่างข้อบังคับดังกล่าวต้องตกไปในที่สุด 

 ตลอดสมัยประชุมสภาฯ รอบนี้มีความเป็นไปได้สูงว่า จะเกิดการประลองกำลังกันระหว่าง พรรคเพื่อไทย ฝ่ายรัฐบาลกับพรรคก้าวไกล ในฐานะพรรคฝ่ายค้าน ตามมาอีกหลายช็อต !