เมื่อ ผู้นำรัฐบาล ที่ชื่อ เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง ออกมาย้ำถึง เสถียรภาพ ของรัฐบาลว่ามีความแข็งแรงมากพอ อีกทั้งยังบอกด้วยว่าวันนี้มี 314 เสียง ถือว่า เยอะแล้ว
อาจทำให้เกิดคำถามตามมาถึง โอกาสและความเป็นไปได้กรณีมีการตั้งข้อสังเกตว่า พรรคประชาธิปัตย์ ภายใต้การนำของ เฉลิมชัย ศรีอ่อน หัวหน้าพรรคคนใหม่ จะได้เข้าร่วมขบวนในรัฐบาลหรือไม่ และเมื่อใด ?
คำถามที่เกิดขึ้นกับทั้งพรรคประชาธิปัตย์ และตัวนายกฯเศรษฐา ว่าด้วยการที่พรรคเพื่อไทยในฐานะพรรคแกนนำรัฐบาล เตรียมเปิดเกมใหม่ด้วยการดึงพรรคประชาธิปัตย์ที่วันนี้แม้จะยังมีสถานะเป็น พรรคฝ่ายค้าน มาร่วมรัฐบาล
เพราะพรรคประชาธิปัตย์ มี 25 เสียงอยู่ในมือโดย 21 เสียงอยู่ในกำกับของเฉลิมชัย หัวหน้าพรรคคนที่ 9 หากไม่นับ 4 เสียง อันประกอบด้วย ชวน หลีกภัย ,จุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ , บัญญัติ บรรทัดฐาน สส.บัญชีรายชื่อ และสรรเพชญ บุญญามณี สส.สงขลา ที่มีแนวคิดตรงข้ามกับขั้วเฉลิมชัยแล้ว ต้องนับว่า หากเพื่อไทยได้เสียงของประชาธิปัตย์ เอาไปสำรองไว้ แม้จะยังไม่ ส่งเทียบเชิญ แต่อย่างน้อยที่สุด สามารถสร้างความหวั่นไหวต่อ พรรคร่วมรัฐบาล พรรคอื่นๆ ไม่น้อย
การเปิดดีลระหว่างพรรคประชาธิปัตย์ กับพรรคเพื่อไทย มีขึ้นในช่วงของการตั้งรัฐบาลหลังการเลือกตั้ง เมื่อเดือนพ.ค.2566 ที่ผ่านมา ภายใต้รหัสที่เรียกกันว่า ดีลลับฮ่องกง เมื่อคนที่ไปพูดคุยกับ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ในฐานะเจ้าของพรรคตัวจริง คือ เดชอิศม์ ขาวทอง สส.สงขลา ที่ในวันนี้คือ เลขาฯพรรค คู่ใจเฉลิมชัย นั่นเอง
แม้ทั้งเดชอิศม์ จะออกมายืนยันว่า วันนี้พรรคประชาธิปัตย์เป็นฝ่ายค้าน 100 เปอร์เซ็นต์ แต่ในอนาคตคงไปพูดแทนสส.และกรรมการบริหารพรรค ไม่ได้ ต่อมา เฉลิมชัย ส่งสัญญาณมายัง ชนินทร์ รุ่งแสง รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ว่าพรรคเตรียมคืนฟอร์ม ทวงคืนความเป็น มืออาชีพ ในฐานะฝ่ายค้าน จากนี้ไปให้เน้นการทำงานด้วยข้อมูล เป็นฝ่ายค้านสร้างสรรค์ ไม่เน้นวาทกรรม
ไม่ว่าในวันข้างหน้าพรรคประชาธิปัตย์ จะพลิกขั้วข้ามฟากไปจับมือกับพรรคเพื่อไทย ในฐานะพรรคร่วมรัฐบาล พรรคใหม่หรือไม่ก็ตาม แต่เมื่อตราบใดที่ยังไม่มีความชัดเจนมากพอ การยืนทำหน้าที่ฝ่ายค้านให้ สมบทบาทที่เคยเป็นมืออาชีพ ย่อมเป็นทางที่สมควรเลือกและ เล่น ให้ดี
ส่วนจะเป็นการ เล่น บทฝ่ายค้านเพื่อ ตรวจสอบรัฐบาลอย่างเข้มข้น จะเกิดขึ้นหรือไม่ ยังต้องรอการพิสูจน์เมื่อวันอภิปราย ร่างพ.ร.บ.งบประมาณฯ2567 มาถึง !