ภาพการหารือระหว่าง เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง กับ เศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ  ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อบ่ายวันที่ 10 ม.ค.67 ที่ผ่านมา มีขึ้นในท่ามกลางสถานการณ์ที่ รัฐบาล กำลังอยู่ในภาวะที่แม้ไม่ถึงกับ กดดัน  แต่ก็ใช่ว่าจะ สบายใจ  


 และดูเหมือนว่าการหารือระหว่าง นายกฯเศรษฐา กับ ผู้ว่าฯเศรษฐพุฒิ มักมีขึ้นในจังหวะที่ รัฐบาลและธนาคารแห่งประเทศไทย ร้องเพลงกันคนละคีย์ !
 ปัญหาใหญ่ของรัฐบาล ที่นำโดย พรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำ เวลานี้คือวางทิศทางว่าจะเดินหน้าหรือถอยหลัง สำหรับโครงการดิจิทัลวอลเล็ต แจกเงินคนละ1หมื่นบาท แม้คณะกรรมการกฤษฎีกา จะให้คำตอบให้คำแนะนำด้านข้อกฎหมายมาแล้ว เมื่อรัฐบาล โดยกระทรวงการคลัง ได้สอบถามกรณีการออกพ.ร.บ.กู้เงิน 5แสนล้านบาทเพื่อนำมาขับเคลื่อนโครงการดิจิทัลวอลเล็ต จะทำได้หรือไม่ 


 แต่ปรากฏว่า คำตอบของกฤษฎีกา คือการตอบในข้อกฎหมาย ว่าการออกพ.ร.บ.หรือพระราชกำหนด นั้นสามารถทำได้ เพราะถือเป็นกฎหมายด้วยกันทั้งสิ้น ประเด็นสำคัญคือการพิจารณาว่า เข้าตามมาตรา 53 ของพ.ร.บ.วินัยการเงินการคลัง หรือไม่ 


 และที่สำคัญ รัฐบาลจะต้องพิจารณาและใช้ดุลพินิจว่า สถานการณ์เศรษฐกิจเวลานี้ ถือว่าเข้าขั้นวิกฤต และมีความจำเป็นแล้วหรือไม่ ในการที่จะออกกฎหมายเพื่อกู้เงิน 5แสนล้านบาทเพื่อมาทำโครงการดิจิทัลวอลเล็ต เนื่องจากคำแนะนำของคณะกรรมการกฤษฎีกา ไม่ได้มีการ ชี้ชัด ว่ารัฐบาลจะทำได้หรือไม่ ดังนั้นจึงทำให้เกิดการ ตีความ คำว่า วิกฤต ภาวะเศรษฐกิจ นั้นมีความหมาย อย่างไร 


 นอกเหนือไปจากความเห็นจากสว.สายเศรษฐกิจ และ พรรคฝ่ายค้านทั้งพรรคประชาธิปัตย์และพรรคก้าวไกล ล้วนแล้วแต่มองในมุมที่แตกต่างออกไปจากรัฐบาลอย่างสิ้นเชิง ว่าเศรษฐกิจของไทยเวลานี้ ไม่ได้อยู่ในขั้นวิกฤติ ยิ่งหากนำไปเทียบกับช่วงที่เกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19  ทั่วโลกได้รับผลกระทบทุกด้าน รวมทั้งประเทศไทย 


 อย่างไรก็ดี ความเห็นของฝ่ายค้านและสว.ที่ดังมาตลอดหลายวันที่ผ่านมา มีความสอดคล้องกับ ธปท. ที่เคยออกมาประเมินถึงภาวะเศรษฐกิจของไทย รวมทั้งการพูดถึงการดำเนินโครงการดิจิทัลวอลเล็ต มาแล้ว แม้ไม่ได้ พูดชัดว่า คัดค้าน แต่ก็ไม่ได้ เออออ หรือสนับสนุนไปกับรัฐบาล 


  ผมบอกไปแล้วว่าไม่เคยแทรกแซงหรือโน้มน้าวอะไร ซึ่งเรื่องนี้ต้องพูดคุยในคณะกรรมการดิจิทัล วอลเล็ตชุดใหญ่ ที่จะไปถกเถียงกันวันนั้นให้เป็นที่ประจักษ์ว่าใครคิดอย่างไร และผมคิดอย่างไร ไม่อยากพูดคุยกันในที่มืด ไม่ดีหรอก บางส่วนบางตอนที่นายกฯเศรษฐา ตอบคำถามสื่อว่าในการพูดคุยกันครั้งนี้ประเด็นใด ทั้งเรื่องดอกเบี้ย ภาวะตลาด ไปจนถึงเรื่องดิจิทัลวอลเล็ต 


 การพูดคุยกับผู้ว่าฯแบงก์ชาติ ของนายกฯเศรษฐา ครั้งนี้  ไม่ว่าจะลดกระแสการเมือง ไปกดดัน แบงก์ชาติลงได้หรือไม่ก็ตาม แต่ประเด็นใหญ่ที่รัฐบาล โดยเฉพาะพรรคเพื่อไทย ยังต้องรับมือกับกระแสระลอกใหม่ จะอยู่ที่ ท่าทีของ พรรคร่วมรัฐบาล จะออกมาในรูปไหน เพราะแม้จะไม่มีใครคัดค้าน หรือสวนทาง แต่อย่าลืมว่าแกนนำทุกพรรคร่วมรัฐบาล ต่างประกาศเป็นเสียงเดียวกันว่า พร้อมหนุนหากไม่ขัดกฎหมาย ไม่ขัดรัฐธรรมนูญ !