ลุ้นคดีใหญ่กันตั้งแต่ต้นปี 2567 ในวันนี้ 24 ม.ค. ศาลรัฐธรรมนูญ นัดฟังคำวินิจฉัยคดีหุ้นไอทีวี เวลาบ่ายสองโมง พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ จะรอดหรือ ร่วง จะฝ่าด่านบ่วงคดีที่แม้เป็น เรื่องเฉพาะตัว แต่ด้วยสถานะของพิธา ทั้งสส.ปาร์ตี้ลิสต์ และผู้ที่กุมกระแส ด้อมส้ม ย่อมมีผลในวงกว้าง
คดีดังกล่าวสืบเนื่องจาก คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย กรณี พิธา เป็นผู้ถือหุ้นในบริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน) จำนวน 42,000 หุ้น ซึ่งประกอบกิจการหนังสือพิมพ์หรือสื่อสารมวลชนใดๆ อยู่ในวันที่สมัครรับเลือกตั้ง สส.แบบบัญชีรายชื่อ เป็นเหตุให้สมาชิกภาพ สส. ของผู้ถูกร้องสิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 101 (6) ประกอบมาตรา 98 (3) หรือไม่ ตามพ.ร.ป.เลือกตั้งสส.
ผลในทางคดียังเป็นประเด็นที่ ยาก ต่อการคาดเดาได้ว่าศาลรัฐธรรมนูญ จะมีคำวินิจฉัยออกมาทางใดแต่ สำหรับ ปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า ได้มองในมุมว่า หากผลออกมาในทาง ร้าย อาจจะกลายเป็น คุณ ต่อพิธาและพรรคก้าวไกล ไปทันที
มรณสักขีในการเมือง การยุบพรรคอนาคตใหม่ และเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของกรรมการบริหารพรรค 10 ปี พิสูจน์แล้วว่า ไม่สามารถทำลายความนิยมของธนาธร ไม่สามารถทำลายพลังของกลุ่มก้อนนี้ได้ ตรงกันข้าม พวกเขาได้รับความนิยมมากกว่าเดิม
คดีสำคัญในศาลรัฐธรรมนูญ วันที่ 24 และ 31 มกราคมนี้ก็เช่นเดียวกัน หากผลการตัดสินออกมาไม่เป็นคุณกับพิธา และพรรคก้าวไกล พิธา ชัยธวัช พรรคก้าวไกล ก็จะกลายเป็น มรณสักขี เหมือนดังเช่นพรรคอนาคตใหม่ ยิ่งได้รับความนิยม ยิ่งได้การสนับสนุน และเมื่อการเลือกตั้งครั้งถัดไปมาถึง ก็ง่ายมากที่พลังทางการเมืองกลุ่มก้อนนี้ จะได้เกิน 250 เสียง (23 ม.ค.2567)
การมองจากมุมของปิยบุตร คือ ความได้เปรียบทางการเมือง ที่รออยู่เบื้องหน้า แม้พิธา จะเผชิญกับ วิกฤติ จากคดีหุ้นไอทีวีจริง ด้วยเชื่อว่า คะแนน จะเทไปที่พรรคก้าวไกล ให้มีความแข็งแกร่งในสนาม เมื่อการเลือกตั้งครั้งหน้ามาถึง
ทว่า การเลือกตั้งรอบหน้าที่คาดหวังนั้น หากรัฐบาลที่นำโดย พรรคเพื่อไทย ประคับประคองรัฐนาวา ไปจนครบเทอม หมายความว่า พรรคก้าวไกลต้องรอต่อไปอีก 4ปี และไม่มีใครตอบได้ว่า กว่าจะไปถึงวันนั้น สถานการณ์ทางการเมือง จะเปลี่ยนแปลง พลิกผันไปเช่นใด พรรคก้าวไกล ยังอยู่ในสมการเมืองอีกหรือไม่
แต่หาก คำวินิจฉัยจากศาลรัฐธรรมนูญ ออกมาในทางที่เป็น บวก พิธา ไม่มีความผิดตามคำร้อง หมายความว่า ในวันพรุ่งนี้ 25 ม.ค.67 เขาจะเดินเข้าห้องประชุมสภาผู้แทนราษฎร ท่ามกลางเสียงปรบมือต้อนรับจากสมาชิกพรรคก้าวไกล และความยินดีจาก ด้อมส้มที่อยู่นอกสภาฯ
และเมื่อพิธาได้กลับเข้าสภาฯ อีกครั้งจะกลายเป็นเรื่องยากสำหรับพรรคเพื่อไทย ตามมา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง 2โปรเจคใหญ่ 2 นโยบายหลักของพรรคเพื่อไทย คือการแจกเงินผ่านดิจิทัลวอลเล็ต 1หมื่นบาท ,การส่งพ.ร.บ.กู้เงิน 5 แสนล้านบาท และโครงการแลนด์บริดจ์ จะถูกคนของพรรคก้าวไกล เปิดหน้าถล่มอย่างหนัก โดยมีพิธา เดินนำหน้า