ความเคลื่อนไหวทางการเมืองร้อนแรง และถูกจับตาด้วยความหวั่นวิตกของหลายต่อหลายฝ่ายกันมาตั้งแต่ปลายปี 2566 แล้วว่า การเมืองหลังการเลือกตั้ง  แม้จะได้ รัฐบาลใหม่ แต่กลับไม่มีอะไรการันตีได้ว่า สงบนิ่งจริง !


 ในความเงียบ ยังคงมีความเคลื่อนไหว กันแทบทุกทาง ทุกด้าน ทั้งฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาล  ซึ่งเป็นการจับมือ ร่วมกันอย่างพิลึกพิลั่น ทั้งการข้ามขั้วผสมข้ามสายพันธุ์ ของพรรคร่วมรัฐบาล ก็มีให้เห็นมาแล้ว ขณะเดียวกัน ในปีกของพรรคร่วมฝ่ายค้าน พรรคก้าวไกล และพรรคประชาธิปัตย์ ก็จับมือกันอย่างหลวมๆเพราะต่างมีแนวคิดและอุดมการณ์ทางการเมืองต่างกันคนละขั้ว 

 ขณะที่ทุกสายตาเพ่งไปที่พรรคก้าวไกล ว่าจะเอาตัวรอดจากคดีที่อยู่ในมือศาลรัฐธรรมนูญไปได้อย่างไร ทั้งคดีความอันเป็น เรื่องเฉพาะตัว คือการที่ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สส.บัญชีรายชื่อ และอดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล ถือหุ้นสื่อไอทีวี จะส่งผลขัดต่อกฎหมายรัฐธรรมนูญ จนทำให้สิ้นสมาชิกภาพการเป็นสส.หรือไม่

  รวมทั้งในวันที่ 31 ม.ค.67 นี้ พรรคก้าวไกล ยังต้องลุ้นว่า คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญจะออกมาอย่างไร กรณีมีคำร้องให้ยุบพรรคก้าวไกล ในคดีความผิดล้มล้างการปกครอง เนื่องจากพรรคได้ชูการแก้ไขมาตรา 112 เป็นนโยบายหาเสียง 
 แต่กลับพบว่า ในความเงียบที่ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ พยายามดำเนินบทบาทนี้มาตั้งแต่วันแรกที่กลับประเทศมา 22 ส.ค.2566 ที่ผ่านมาจนถึงวันนี้ ปราฎว่า ฝ่ายต่อต้านทักษิณ ยังคงเคลื่อนไหวอย่างไม่ลดละ !
 
 การนำทักษิณ เข้าสู่กระบวนการยุติธรรม หลังเดินทางกลับมาถึงประเทศไทย เพื่อรับโทษตามคำพิพากษาของศาลฎีกา แผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เป็นเวลา 8ปีต่อมาได้รับการอภัยโทษ เหลือเพียง 1ปี แต่จนถึงวันนี้ยังมีคำถามว่า ทักษิณ ติดคุกจริงหรือไม่ และการเข้ารับรักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจ จนเกินกว่า 120 วันนั้น คือลับ ลวง พรางหรือไม่
 
 การเคลื่อนไหวจากกลุ่มการเมืองภาคประชาชน ที่นำโดยม็อบคปท. ,กลุ่มของนพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานพรรคไทยภักดี แม้จะไม่มีมวลชนเข้าร่วมคับคั่ง แต่ก็ไม่ได้เงียบหาย และล่าสุดมีการรุกไล่กันต่อ เมื่อ ชาญชัย อิสระเสนารักษ์ อดีตสส.นครนายก พรรคประชาธิปัตย์ เข้ายื่นหนังสือต่ออธิบดีกรมราชทัณฑ์และเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องให้ดำเนินการตามประมวลกฎหมายวิอาญา มาตรา 246 โดยเคร่งครัด ในการทุเลาการบังคับโทษจำคุก ทักษิณ ตามคำพิพากษาของศาลฎีกาฯ โดยขอให้ดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 7 วัน หากเกินเวลาที่กำหนด จะดำเนินคดีตามกฎหมายต่ออธิบดีกรมราชทัณฑ์และเจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ทั้งหมดตามกฎหมายต่อไป 

 หมายความว่า ปัญหาเรื่องการควบคุมตัวนักโทษอย่างทักษิณกำลังจะเป็น เงื่อนไข ที่กดดันไปยังบิ๊กราชทักทัณฑ์ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ดังนั้นจึงน่าสนใจว่าแล้วใครจะเสี่ยง ให้ตนเองติดคุก ขณะที่เกมการรุกไล่ทักษิณ นอกสภาฯ กำลังขยับ ปรากฏว่า 98สว. ได้ยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล แม้จะไม่มีการลงมติตาม มาตรา153 แต่ไฮไลท์กลับอยู่ที่สว. เตรียมชำแหละเรื่องกระบวนการยุติธรรมที่ อุ้มทักษิณ กันในสภาฯ 

 ดังนั้นสถานการณ์ของพรรคเพื่อไทยและนายกฯเศรษฐา ทวีสิน ที่จะต้องมาตอบคำถามสว.ในศึกอภิปรายฯที่กำลังจะมีขึ้นนั้น จึงถูกจับตาอย่างยิ่ง ว่านอกจากจะภารกิจ ทิ้งทวน ของ สว.ชุดคสช.แล้ว ยังอาจเป็นการส่งสัญญาณ ไปยัง ทักษิณว่าเขาอาจจะ นอนนอกเรือนจำ ต่อไปไม่ได้อีกแล้ว !