เมื่อ “คู่แข่ง” อย่าง “พรรคก้าวไกล” และ “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” สส.บัญชีรายชื่อ ฆ่าไม่ตาย  มิหนำซ้ำเมื่ออยู่ในสถานะ “พรรคฝ่ายค้าน” ยังได้รับความนิยม จากประชาชน ครองกระแสเหนือ “พรรคเพื่อไทย” ในฐานะพรรคแกนนำรัฐบาล อย่างเห็นได้ชัด  ทั้งจากผลการสำรวจผ่านโพลหลายสำนัก 
 
โดยเฉพาะล่าสุด การทำสำรวจความเห็นจากซูเปอร์โพล  เมื่อวันที่ 28 ม.ค.67 ที่ผ่านมานอกจากจะสะท้อนว่าการเติบโตของพรรคก้าวไกล เป็นไปแบบก้าวกระโดด ภายในระยะเวลา 3ปีแล้ว ยังน่าสนใจว่าผลการสำรวจของโพล ยังชี้ด้วยว่ากระแสของพรรคก้าวไกลยัง “แรง” ในพื้นที่ภาคใต้  
 
เนื่องจากพบว่า กระแสพรรคก้าวไกล มากถึงร้อยละ 45.2 ซึ่งถือเป็นปรากฎการณ์ทางการเมืองที่น่าสนใจ และต้องจับตามอง เพราะอย่าลืมว่า แม้แต่ “พรรคเพื่อไทย” เอง ยังไม่สามารถ “เจาะ” เข้ามาได้ในพื้นที่ภาคใต้ ตั้งแต่สมัยรัฐบาลไทยรักไทย พลังประชาชน จนมาถึงปัจจุบัน จึงจำเป็นต้องอาศัย “ฐานเสียง”  จากพรรคประชาชาติ เป็นแขนขาในเขต3 จังหวัดชายแดนใต้ 
 
เวลานี้หากโฟกัสไปที่ “พรรคร่วมรัฐบาล” ในปีก “314เสียง”จะพบว่าล้วนแล้วแต่มีปัญหา กันแทบทุกพรรค ทั้งปัญหาภายใน และปัญหาจากคดีความ อย่างพรรคภูมิใจไทย ที่แม้สส.ในพรรคทั้ง 71 เสียงจะไม่มีการแตกแถว แต่อย่าลืมว่าภูมิใจไทย ยังต้องลุ้นว่าจะเจอผลพวงจาก กรณีศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัยให้ “ศักดิ์สยาม ชิดชอบ” พ้นจากสถานการณ์เป็นรัฐมนตรี จากกรณีความผิดถือครองหุ้นบุรีเจริญฯ จะลามไปจนพรรคทำให้ถูกยุบตามมาอีกดาบหนึ่งหรือไม่ 
 
ขณะเดียวกัน ปัญหาภายในพรรคพลังประชารัฐ ที่แม้วันนี้ยังมี “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ นั่งเป็นหัวหน้าพรรค  และมีความพยายามจัดกิจกรรมภายในพรรค แต่ลึกๆแล้ว มีรายงานผุดขึ้นมาเป็นระยะๆว่า “กลุ่มก๊วน” ของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรฯ ในฐานะเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ  แม้ “ตัว” จะอยู่กับ บิ๊กป้อม แต่ “หัวใจ” ไหลไปที่ “พรรคเพื่อไทย” นานแล้ว 
 
การจับมือของพรรคร่วมรัฐบาล ยึด 314 เสียงให้เหนียวแน่นคือสิ่งจำเป็น อันเป็นเหมือน “สัญญาใจ” แม้ในระหว่างทางที่เดินหน้าไปด้วยกัน จะมีกระแสข่าวว่าด้วยเรื่องของการเปลี่ยนตัวนายกฯ จาก “เศรษฐา ทวีสิน” ไปสู่ “แพทองธาร ชินวัตร”  หัวหน้าพรรคเพื่อไทย  เกิดขึ้นหลายต่อหลายครั้ง สลับกับการมีสัญญาณชี้ว่า ตำแหน่ง นายกฯคนที่ 31 นั้น บิ๊กป้อม เองก็หมายตาเอาไว้เช่นกัน แต่ทั้งหลายทั้งปวง การให้เก้าอี้นายกฯ ยังอยู่ในมือ พรรคเพื่อไทย และพรรคร่วมรัฐบาล ย่อมดีกว่าการเปิดช่อง ให้ตกไปเป็นของ “พรรคก้าวไกล”  โดยการใช้สูตร พรรคเพื่อไทย กลับไปจับมือกับ พรรคก้าวไกล  เพราะหากเป็นเช่นนั้น โอกาสที่ทั้งพรรคเพื่อไทยและพรรคร่วมรัฐบาลจะเสียหายกันสาหัส  !