การบ้าน การเมืองไทย ผสมปนเปไปด้วยเรื่องราว หลากหลายประเด็น ทั้งกรณีที่ “ฝ่ายความมั่นคง” และ “เศรษฐา ทวีสิน” นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง  ต้องรับมือ ทั้งกรณีที่อ่อนไหว เปราะบาง คือการวางกรอบ และมาตรการเรื่องถวายอารักขาความปลอดภัยขั้นสูงสุดต่อ “ขบวนเสด็จ” หลังจากเกิดเหตุ “ป่วน” โดย “ตะวัน ทะลุวัง” ที่ผ่านมา 

 ขณะเดียวกัน ยังน่าสนใจว่า การขยับ เพื่อเตรียม “กลับบ้าน” ของ นักโทษที่ชื่อ “ทักษิณ ชินวัตร”  อดีตนายกรัฐมนตรี แม้ะไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่คือเรื่องเก่าที่กำลังวนกลับมา “เขย่า” ทั้งรัฐบาลและพรรคเพื่อไทย รอบใหม่  แม้ทั้ง “อุ๊งอิ๊ง”แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย รวมถึง “พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง” รมว.ยุติธรรม และ นายกฯเศรษฐา จะประสานเป็นเสียงเดียวกันว่า เข้าเกณฑ์การพักโทษตามระเบียบและกฎหมายทุกประการ ก็ตาม 

 แต่อย่าลืมว่าฝ่ายต่อต้าน ตลอดจน “แนวร่วม” ที่เคลื่อนไหวชุมนุมกันบนท้องถนนมาก่อนหน้านี้ ประกาศพร้อม “ยกระดับ” ได้ทุกเมื่อจากนี้ไป  ประเด็นที่หลายคนกำลังจับตาและติดตาม เมื่อภายหลังจากที่ ทักษิณ ได้รับการพักโทษ และออกมาพำนักที่ “บ้านจันทร์ส่องหล้า” แล้ว ถนนทุกสายจะมุ่งหน้าไปที่จันทร์ส่องหล้า แทนทำเนียบรัฐบาล ที่เศรษฐา นั่งทำงานอยู่หรือไม่ 

 เพราะที่ผ่านมา นับตั้งแต่ก่อนตั้งครม. “เศรษฐา1” ก็มีข่าวว่า ทักษิณ คือผู้กำหนดเกมทุกการเล่นในสังเวียนการเมืองมาก่อนที่จะเดินทางกลับประเทศไทย เมื่อเดือนส.ค.2567 ที่ผ่านมา ดังนั้นเมื่อวันนี้ทักษิณ กำลังจะกลายเป็น “เสือติดปีก”  การบัญชาการจึงจะต้องย้ายไปที่บ้านจันทร์ส่องหล้า โดยไม่ต้องแปลกใจ
 

อย่างไรก็ดี แม้ทักษิณ จะได้กลับไปอยู่บ้านจันทร์ส่องหล้า และการที่พรรคเพื่อไทย ได้เป็นแกนนำรัฐบาล รวมทั้งเวลานี้ ความสัมพันธ์กับ “พรรคร่วมรัฐบาล” ที่อยู่ร่วมกันมากว่า 4เดือน ยังเป็นไปในลักษณะถ้อยทีถ้อยอาศัยก็ตาม แต่เป้าหมายใหญ่ของทักษิณ ยังไม่ลุล่วง !  

 นั่นคือการผลักดันให้ “อุ๊งอิ๊ง” แพทองธาร ได้ขึ้นมานั่งในเก้าอี้นายกฯคนที่ 31 เดินตามรอย “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร”  ผู้เป็นน้องสาว แต่ดูเหมือนว่า บรรยากาศทางการเมือง ไม่เป็นใจนัก เมื่อพรรคเพื่อไทยกำลังอยู่ในช่วง “ขาลง” อีกทั้ง แพทองธาร ยังไม่สามารถ สร้าง “ผลงาน” ให้เรทติ้งตัวเองดังเปรี้ยงปร้างได้ที่คาดหวัง 
 

เมื่อแพทองธาร ยังไม่อยู่ในความพร้อม ที่จะขึ้นสู่เก้าอี้นายกฯ ในเร็ววันนี้ ภารกิจของทักษิณ จึงไม่สามารถ วางใจต่อสถานการณ์รอบด้านได้ทั้งหมด !