แจ้งกำหนดการมาล่วงหน้า  คล้ายเป็นวาระปกติ เมื่อ จักรภพ เพ็ญแข อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เดินทางกลับประเทศไทย หลังจากที่ลี้ภัยทางการเมือง ไปอยู่ต่างประเทศถึง 15ปี และแล้วเมื่อเช้าตรู่วันที่ 28 มีนาคม 67 ที่ผ่านมา จักรภพ เดินทางมาถึงประเทศไทย ก่อนที่จะเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมาย 
 แน่นอนว่าเมื่อกลับมาถึงประเทศไทย จักรภพ ถูกควบคุมตัวโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ ไปยังกองบังคับการปราบปราม เพื่อมารับทราบข้อกล่าวหา ใน2คดี คือ 1. เรื่องการครอบครองอาวุธปืน และ 2.คดีขัดคำสั่ง คสช.ที่เคยเรียกไปรายงานตัว แต่เขาไม่ไปและหนีออกนอกประเทศ 

 โดยจักรภพให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา จากนั้นเจ้าหน้าที่ให้  ประกัน2 ข้อหา ข้อหาละ 200,000 บาท และมีกำหนดจะต้องเข้ามารายงานตัวและสอบปากคำในวันที่ 22-23 เมษายน 

 เป็นอันว่าการเดินทางกลับประเทศไทยของ จักรภพ  ที่ไม่ใช่เพียงอดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ เท่านั้น  แต่ในทางการเมืองแล้ว เขาคืออดีตคนเสื้อแดงเข้าร่วมการชุมนุม 
 

สำหรับเหตุผลที่จักรภพ เปิดใจกับสื่อ ถึงการตัดสินใจกลับมา เพราะสถานการณ์ที่เปลี่ยนไป การสร้างประชาธิปไตย มีมากกว่าทำลาย ส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะการเข้ามาเป็นรัฐบาลของพรรคเพื่อไทย ทำให้เกิดความมั่นใจในการต่อสู้คดี ยืนยันไม่มีการดีล มีแต่การพูดคุยกันเท่านั้น 
 และยอมรับว่าเขาได้พูดคุยกับ ทักษิณ  ชินวัตร อดีตนายกฯ ก่อนกลับโดยระบุว่า  ได้โทรศัพท์คุยกัน 1 ครั้ง 

  ท่านได้พูดคำสำคัญคำหนึ่งว่าหลายอย่างเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น เราพูดได้เท่านี้ แต่ไม่ได้พูดคุยเรื่องคดี เพราะเป็นคดีที่คนละแบบกัน แต่ละคนก็ต้องทำการบ้านของตัวเอง (28 มีนาคม 2567) 

 นอกจากนี้เจ้าตัวยังยอมรับว่า หลังจากนี้มีความเป็นไปได้ว่า คนเสื้อแดง ที่เคยหนีไปอยู่ต่างประเทศ และมีคดีติดตัว น่าจะทยอยเดินทางกลับประเทศไทย และตนเองก็จะขอเสนอตัวช่วยเหลือคนที่อยากกลับมา และกลับมาได้ด้วยการต่อสู้ในคดีความและมีความพร้อม 
 และบอกด้วยว่าการที่เขากลับมารอบนี้ก็เหมือน หนูลองยา ที่จะทำให้หลายคนมีความมั่นใจมากยิ่งขึ้น 

 สำหรับคนเสื้อแดงที่ลี้ภัยออกไปในต่างแดน หนีคดีต่างๆก่อนหน้านี้ย่อมกำลังมองและเห็นว่าการใช้ ทักษิณ โมเดล นั้นน่าจะเป็นคำตอบและทางออกของชะตาชีวิตหลังจากนี้ได้จริง แต่ในมุมมองของฝ่ายต่อต้านทักษิณ ย่อมประเมินว่าอีกไม่นาน ระบอบทักษิณ จะฟื้นคืนชีพ ส่วนจะกลับมาแข็งแกร่งเหมือนในอดีตหรือไม่ ยังเป็นเรื่องที่ตอบได้ยาก !