นิตยสาร DestinAsian จัดอันดับสนามบินสุวรรณภูมิ ได้อันดับที่ 2 สนามบินที่ดีที่สุด รองจากสนามบินชางงีของสิงคโปร์ ที่ได้อันดับที่ 1 ส่วน อันดับ 3 คือ สนามบินนานาชาติฮ่องกง จากการคัดเลือกของผู้อ่าน (Readers’ Choice Awards) ของนิตยสาร DestinAsian

ก่อนหน้านี้ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง แถลงวิสัยทัศน์ “IGNITE THAILAND, AVIATION HUB”  (วันที่ 1 มีนาคม 2567) เพื่อประกาศถึงศักยภาพของประเทศไทยในการเป็นศูนย์กลางการบินของภูมิภาค  โดยประกาศว่า 1 ปีจากนี้ สนามบินสุวรรณภูมิจะต้องเป็น 1 ใน 50 ของโลก และ 1 ใน 20 ของโลกภายใน 5 ปี 

ทั้งนี้ นายเศรษฐา ยอมรับว่า มีปัญหา เนื่องจาก 10 ปีที่แล้วสนามบินสุวรรณภูมิเป็นสนามบินที่อยู่ในอันดับที่ 13 ของโลก แต่ปัจจุบันอยู่อันดับที่ 68 ของโลก ตกมา 55 อันดับ โดยสุวรรณภูมิมีพื้นที่ 20,000 ไร่ รัฐบาลมีแผนขยายขีดความสามารถให้รองรับผู้โดยสารได้ 150 ล้านคนต่อปีภายในปี 2573 และเมื่อปลายปีที่แล้วก็เปิดใช้อาคารเทียบเครื่องบิน SAT1 ซึ่งเป็นวิสัยทัศน์ของรัฐบาลเมื่อ 17 ปีที่แล้ว ที่ได้วางโครงสร้างไว้ แต่ก็ยังยอมรับว่ามีปัญหาอยู่บ้าง แต่ทั้งนี้จะมีการเปิดให้ครบ 100% ภายในไตรมาส 2 ของปี 2567 รองรับผู้โดยสารเพิ่มอีก 45 ล้านคน เป็น 60 ล้านคนต่อปี

นายกรัฐมนตรี ยังมั่นใจว่า หลังจาก 6 เดือนนี้ต่อไป จะไม่เห็นผู้โดยสารที่รอคิวนาน สุวรรณภูมิไม่ใช่แค่เทกแคร์คนอย่างเดียว แต่ต้องดูเรื่องของสินค้าด้วย เพราะเป็นสิ่งสำคัญ โดยจะเปิดพื้นที่รองรับเครื่องบินเจ็ตมาลงให้มากขึ้น เปิดประตูรับเงินหลายล้านเข้าสู่ประเทศ  สร้างอาคารจอดรถเพิ่มให้สามารถจอดรถเพิ่มขึ้นเป็น 5 เท่า ประมาณ 7,600 คัน โดยในช่วง 3 เดือนนี้  จะเพิ่มที่จอดให้ได้อีก 1,000 คันก่อน ส่วนมาสเตอร์แพลนจะสร้างสนามบินอันดามัน เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวของภูเก็ต พังงา กระบี่ และจังหวัดใกล้เคียง และพัฒนาสะพานสารสิน เพื่อรองรับรถได้มากขึ้น และให้เรือขนาดใหญ่สามารถผ่านได้ รองรับเศรษฐีทั่วโลก ส่วนทางภาคเหนือก็จะมีสนามบินล้านนา เพื่อรองรับผู้โดยสารอีก 20 ล้านคนต่อปี

กระนั้น คงต้องติดตามแผนของรัฐบาลเศรษฐา ที่จะผลักดันให้กลายเป็นจริงอย่างเป็นรูปธรรมได้หรอืไม่ ภายในเป้าหมายตามระยะเวลาที่กำหนด