แสงไทย เค้าภูไทย ปัญหาหมอกควันและฝุ่นในกรุงเทพฯตัวการสำคัญที่สุดคือรถยนต์ใช้น้ำมันทุกประเภท โดยเฉพาะดีเซล กรุงเทพฯติดอันดับโลกควันพิษ แต่แก้ไขแบบหยุดๆไปๆ เมืองหลว ง เมืองเศรษฐกิจสำคัญๆของโลกขณะนี้หันมาให้ความสำคัญกับการลดมลพิษจากควันที่ปลดปล่อยออกมาจากท่อไอเสียรถยนต์โดยทะยอยลดจำนวนรถยนต์และพาหนะใช้น้ำมันในเมืองเหล่านั้น จนบางเมืองกลายเป็นเมืองปลอดรถยนต์ดังเช่นบรัสเซลของเบลเยี่ยมเป็นต้น นอกจากรถยนต์แล้ว ตัวก่อควันและก๊าซเรือนกระจกก็คือโรงงานอุตสาหกรรมที่่ใช้ถ่านหินและเชื้อเพลิงฟอซซิลโดยเฉพาะน้ำมันและกา๊ซหุงต้ม เชื้อเพลิงฟอสซิลตัวสำคัญได้แก่น้ำมันชนิดต่างๆ ทั้งนี้ ผลผลิตจากการกลั่นน้ำมันดิบหรือปีโตรเลียมนั้นมีกว่า 80 ชนิด แต่ที่เป็นเชื้อเพลิงสำคัญๆ ได้แก่น้ำมันชนิดเบา (Lighter fractions) เช่น เบนซิน (Petrol หรือ Gasoline) พาราฟิน (Parafin หรือ Kerosene น้ำมันก๊าด) เบนซีน (Benzene) น้ำมันเชื้อเพลิงส่วนที่หนักกว่า (Heavier fractions) เช่น น้ำมันดีเซล (Diesel) น้ำมันหล่อลื่น (Lubricants) และน้ำมันเตา (Fuel oils) ที่ส่นใหญ่ใช้ผลิตกระแสไฟฟ้า โรงไฟฟ้าบ้านเรา ทั้้งใช้ถ่านหินและน้ำมันเตาเป็นตัวการปลดล่อยควันพิษมากเป็นอันดับ 2 รองจากรถ แม้จะมีโครงการเปลี่ยนเชื้อเพลิงจากถ่านหินมาเป็นเชื้อเพลิงชีวภาพและพลังแสงอาทิตย์แต่ก็ต้องใช้เวลาเป็นสิบๆปี ดังเช่นเยอรมนีเป็นต้นที่ิเป้าหมายโครงการเลิกใช้ถ่านหินอยู่ที่ปี 2034 คืออีก 15 ปีเป็นต้น ตราบใดที่เชื้อเพลิงฟอสซิลยังราคาถูกกว่าเชื้อพลิงชนิดอื่นๆ ตราบนั้น การแก้ปัญหาควันพิษก็ไม่อาจทำได้สำเร็จในเร็ววัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการใช้ดีเซลในรถยนต์พาณิชย์ หลักๆคือปิกอัพ ดีเซล ถือเป็นน้ำมันเชื้อเพลิงที่มีความสำคัญต่อเศรษฐกิจมาก เพราะใช้กับรถพาณิชย์แทบทุกประเภท รวมถึงเรือ รถอุตสาหกรรม รถใช้งานหนักเช่นก่อสร้าง เครื่องจักรโรงงาน แบ่งเป็น 2 เกรด คือน้ำมันดีเซลหมุนเร็วกับดีเซลหมุนช้า และไบโอดีเซลที่ได้จากการนำน้ำมันปาล์มมาผสม ทำให้ต้นทุนถูกลงและไม่ก่อให้เกิดมลพิษจากการเผาไหม้ กากจากการกลั่น จะได้ ถ่านโค้ก (Coke) แอสฟัลต์ (Asphalt) และ บิทูเม็น (Bitumen) หรือน้ำมันดิน (Tar) และขี้ผึ้ง (Wax หรือ Vaseline) รวมทั้งก๊าซชนิดต่างๆ เช่น บิวเทน (Butane) และโพรเพน (Propane) แต่ที่มีการใช้ในอุตสาหกรรมมากที่สุดได้แก่แอสฟัลต์หรือาางมะตอย ที่นำไปลาดถนนหรือสังเคราะห์เป็นยาง ทั้งยางรถยนต์และยางยืดหยุ่นในอุตสาหกรรมอื่นๆ การแก้ปัญหาควันจากท่อไอเสียรถใช้ดีเซลก็คือ ระบบเผาไหม้ภายในเครื่องยนต์จะตัองสมบูรณ์ เคยมีการรณรงค์ใช้ท่อกรองอากาศติดท่อพักไอเสียก่อนพ่นออกมาสู่ถนนอยู่พักหนึ่ง แล้วก็หายไปพร้อมกับไบโอดีเซล เหตุผลก็คือ ไบโอดีเซลให้กำลังเครื่องยนต์ไม่มากเท่ากับดีเเซลบริสุทธิ์ ส่วนหม้อกรองควันที่ท่อพักก็ทำให้พลังขับเคลื่อนลดลง ไม่สะใจปิกอัพชน รถยนต์ใช้เบนซินก็เช่นกัน มีการส่งเสริมให้ผลิตและใช้แก้สโซฮอล์ คือเบนซินผสมแอลกอฮอล์ ซึ่งมีตั้'แต่ 10 % ( E10)จนถึง 85%(E85) แต่ก็ทำกันไม่จริงจัง ทำให้ปั๊มน้ำมันบางปั๊ม หรือส่วนใหญ่ไม่ให้บริการรน้ำมันเชื้อเพลิงประเภทนี้ รถยนต์ที่ใช้เชื้อเพลิงชีวภาพเหล่านี้ จึงเกิดความเอือมระอา เพราะหาที่เติมยาก ทั้งแรงขับเคลื่อนที่ได้จากการเผาไหม้เชื้อเพลิงเหล่านี้ยังต่ำกว่า ดีเซลหรือเบนซินบริสุทธิ ก็เลยเลิกรากันไป อันที่จริงช่วงนี้น่าจะเป็นจังหวะเหมาะที่จะรื้อฟื้นมาตรการกระตุ้นให้ผู้ขับขี่รถยนต์ รถจักรยานยนต์ หันมาใช้น้ำมันเชื้อเพลิงชีวภาพ เพราะราคาน้ำมันปาล์มตกต่ำ ราคาอ้อยที่ให้แอลกอฮอล์ก็ตกต่ำเช่นกัน จนเกษตรกรผู้ปลูกพืชผลทั้ง 2 ชนิดเดือดร้อนกันไปทั่ว การลดการใช้เชื้อเพลิงจากน้ำมันปิโตรเลียมมาเป็นรถใช้กระแสไฟฟ้าหรือรถไฟฟ้าแม้จะยังอยู่อีกไกลแต่ก็ต้องทำ กรุงเทพฯจัดเป็นเมืองหลวง เมืองเศรษฐกิจในร่างเดียวกัน การย้ายศูนย์ราชการ ศูนย์การเงิน เศรษฐกิจ ออกจากกรุงเทพฯ น่าจะทำให้ กรุงเทพฯหลวม และ“หยุดโต”ได้ เรื่องใช้รถไฟฟ้า รถใต้ดินแทนรถยนต์นั้นอีก 4-5 ปี แต่คงช่วยไม่ได้มาก เพราะเป็นรถโดยสาร รถพาณิชย์ซึ่งป็นตัวหลักในการปล่อนควันพิษ ยังจำเป็นต้องวิ่งเข้า-ออกหรือผ่าเมืองอยู่อีกนับเป็นล้านๆคันต่อวัน การหยุดโตกรุงเทพฯไม่ใช่ทำกันง่ายๆ แต่ก็ต้องทำ เพราะไม่มีทางลือกอื่นใดดีกว่านี้