แสงไทย เค้าภูไทย กัญชาถูกกฎหมายใน 3 ประเทศอเมริกาเหนือและอุรุกวัยที่เป็นชาติแรกในโลกที่ให้กัญชาถูกกฎหมายทั้ง 2 ด้าน ขณะนี้ยังไม่ปลดกัญชาออกจากสถานภาพยาเสพติด ไม่ว่าจะด้านใช้ทางการแพทย์หรือด้านสันทนาการ โดยเฉพาะเม็กซิโกที่เป็นชาติเดียวในอเมริกาเหนือที่ยังไม่ยอมเปิดให้ใช้กัญชาสันทนาการถูกกฎหมาย แต่มีการตกลงกันระหว่าง 2 พรรคใหญ่แล้วว่า ในการเปิดประชุมสภานิติบัญญัติสมัยหน้าต้นปี 2020 ทั้งสองพรรคจะร่วมมือกันในลักษณะ bi-partisan เพื่อชาติผ่านกฎหมายกัญชาสันทนาการ สำหรับสหรัฐที่มี 50 รัฐ บางรัฐขนาดใหญ่กว่าประเทศไทย บางรัฐขนาดพอๆกันหรือเล็กกว่า แต่ละรัฐมีรัฐบาลและสภานิติบัญญัติของตนเอง คล้ายๆกับกรุงเทพมหานครแต่ขึ้นอยู่กับรัฐบาลกลาง (Federal) ขณะนี้มีรัฐที่กัญชาถูกกฎหมายทั้งหมด 33 รัฐ โดยกัญชาใช้ทางการแพทย์ซื้อได้ตามใบสั่งแพทย์ 12 รัฐ ใช้เฉพาะแพทย์เท่านั้น 10 รัฐ ใช้ได้ทั้งทางการแพทย์และสันทนาการ 11 รัฐ ผิดกฎหมายทุกด้าน 17 รัฐ ตามรัฐบัญญัติ ผู้ปลูก จะขายได้เฉพาะนำไปใช้ทางการแพทย์เท่านั้น โดยส่วนที่บริษัทยาเอาไปทำเป็นยานั้น เข้าข่ายใช้ทางการแพทย์ ส่วนร้านขายยาจะขายแก่ผู้ซื้อตามใบสั่งแพทย์เท่านั้น สำหรับการซื้อขายในรัฐที่กัญชาสันทนาการถูกกฎหมาย ร้านขายกัญชาจะต้องขึ้นทะเบียนอนุญาต ห้ามขายในร้านค้าปลีก((ร้านสะดวกซื้อ) คุณสมบัติผู้ซื้อ ต้องเป็นผู้ที่มีอายุ 21 ปีขึ้นไป และในปริมาณเล็กน้อย ส่วนใหญ่กำหนดไม่เกิน1 กรัม นักท่องเที่ยวไม่มีสิทธิ์ซื้อ แต่ไม่ว่าจะเป็นกัญชาถูกกฎหมาย(legalized cannabis)ในด้านใด กัญชายังถูกกำหนดให้เป็นยาเสพติดประเภท 1 ( Schedule I substance ) ตามกฎหมายประเทศ (Federal Law) อยู่ กัญชาในที่นี้ แบ่งเป็น 2 ประเภท 1.กัญชาในรูปสมุนไพร(whole herbs) ถือเป็นสมุนไพรทั้งต้น(ใบ ดอก ลำต้น เปลือกต้น กิ่งก้าน ราก)สุดแต่จะนำส่วนไหนมาใช้ 2.กัญชาสกัด ไม่ว่าจะในรูปน้ำมันกัญชา หรือรูปผงแป้ง เม็ดหรือสาร CBDหรือ THC บริสุทธิ์ถือเป็นสารเคมี แต่แม้กัญชาจะยังอยู่ในฐานะยาเสพติด ทว่าสารอนุพันธุ์ของกัญชาบางตัวได้รับการขึ้นทะเบียนจากองค์การอาหารและยา ( Food and Drug Administration -USFDA)ให้ใช้เป็นยารักษาโรคได้แล้ว อย่างเช่นยา Marinol(THC) Syndros(THC) Cesamet (nabilone)และ Epidiolex(CBD) ซึ่งตัวหลังสุดนี้กำลังขอขึ้นทะเบียนในไทย อุตสาหกรรมกัญชาถูกกฎหมายในสหรัฐขณะนี้มีมูลค่ากว่า 9.5 พันล้านดอลลาร์และคาดว่าจะขึ้นถึง 47.3 พันล้านดอลลาร์ในปี 2027 คืออีก 8 ปีข้างหน้า มีงานวิจัยเกี่ยวกับกัญชาเป็นหมื่นๆหน้ากระดาษพิมพ์ ตั้งแต่ด้านการแพทย์ ด้านพิษวิทยา ด้านสังคมวิทยา ด้านคุณภาพชีวิต ด้านพฤติกรรมการบริโภค ด้านพัฒนาสายพันธุ์ ด้านผลิตภัณฑ์อาหาร ด้านอุตสาหกรรม ด้านการตลาด ด้านภาษี ฯลฯ สหรัฐอนุญาตให้กัญชาใช้ทางการแพทย์และสันทนาการได้ตั้งแต่ปี 2014 ปีนี้จึงเป็นปีที่ 5 ที่เปิดกัญชาถูกกฎหมาย แต่ไม่เสรี เพราะยังคงความเป็นสารเสพติดอยู่ เหตุจากเขาคำนึงถึงคุณภาพชีวิตประชากรมาก ดังเห็นได้จากการห้ามผู้ที่อายุไม่ถึง 21 ปีใช้กัญชา ขณะที่แคนาดาอายุต่ำกว่า คือ 18 ปี เหตุผลคือ มีงานวิจัยผลของกัญชาต่อสมอง พบว่า ทำให้สมองฝ่อ ส่วนในเด็กที่ยังโตไม่เต็มที่ จะยับยั้งการเติบโตของสมอง นี่คือเหตุผลที่อย.สหรัฐสั่งถอนกัญชาจากไอศครีมและขนม เครื่องดื่ม ที่เด็กและเยาวชนเข้าถึงได้ ในงานวิจัยด้านสังคมและจิตวิทยาสังคม พบว่า คนผิวสีและเชื้อสายที่มิใช่อเมริกัน จะเสพกัญชามากกว่าคนอเมริกันผิวขาว ในด้านชนชั้น พบว่าคนชั้นล่าง ใช้กัญชามากกว่าคนที่มีระดับสังคมสูง มีการศึกษาสูง มีฐานะทางสังคมดี สำหรับแคนาดาที่เปิดให้ถูกกฎหมายทั้งด้านใช้ทางการแพทย์และด้านสันทนาการนัันยังมีการควบคุมอยู่ ทั้งด้านการขาย การครอบครอง การผลิต และด้านการจ่ายแจก ทั้งนี้ด้วยเหตุผลสำคัญที่สุดคือป้องกันการเข้าถึงกัญชาของเยาวชนและป้องกันกัญชาผิดกฎหมาย สำหรับอุรุกวัย ชาติแรกในโลกที่กัญชาถูกกฎหมายทั้งด้านใช้ทางการแพทย์และสันทนาการ แต่ก็ยังคงความเป็นยาเสพติด ต้องใช้ในกรอบกฎหมาย คือใช้ทางการแพทย์ โดยแพทย์และคนไข้ซื้อตามร้านขายยาที่ได้รับอนุญาตจากรัฐบาล ตามใบสั่งแพทย์เท่านั้น ส่วนด้านสันทนาการ ต้องมีคุณสมบัติตามที่รัฐกำหนด โดยเฉพาะอายุ ซึ่งขณะนี้มีผู้ได้รับนุญาตให้ใช้กัญชาขึ้นทะเบียนแล้ว 22,000 คน โดยมีเงื่อนไขว่า สามารถครอบครองกัญชาได้คนละไม่เกิน 40 กรัมต่อเดือน ส่วนผู้ปลูก ต้องเป็นสหกรณ์หรือวิสาหกิจชุมชน ซึ่งขณะนี้ขึ้นทะเบียนแล้ว 45 แห่ง โดยจำกัดปริมาณขายต่อราย รายละไม่เกินปีละ 480 กรัม ข้อบังคับการใช้กัญชาของทั้งสี่ประเทศนี้ พอจะเป็นต้นแบบให้เมืองไทยนำมาใช้ได้ในแทบทุกด้าน สุดแต่จะเลือกและสุดแต่จะผ่านสภานิติบัญญัติได้ขนาดไหน