ชัยวัฒน์ สุรวิชัย เราสามารถทำอะไรได้ ตามที่เราต้องการ เราสามารถเป็นอะไรได้ ตามที่เราปรารถนา เราสามารถกำหนดอนาคตได้ ด้วยการศึกษาเรียนรู้ ฝึกฝน และพัฒนาตลอดชีวิต มนุษย์ เป็นสัตว์ที่ใช้เหตุผลและการรู้จักใช้ความคิดในการดำเนินชีวิต รวมทั้งการฝึกฝนเรียนรู้ เป็นพัฒนาการสำคัญที่ทำให้มนุษย์ต่างจากสัตว์ชนิดอื่นการใช้เหตุผล จึงเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับมนุษย์โดยเฉพาะในปัจจุบันที่สภาพทางสังคมมีความซับซ้อนมาก( หลักธรรมทางพุทธ และเหตุผลทางวิทยาศาสตร์ ) ทัศนะของท่าน ป.ปยุตฺโต มนุษย์เป็นสัตว์ประเสริฐที่สามารถฝึก ศึกษา เรียนรู้และพัฒนาได้ และต้องฝึก ศึกษา ฯจึงจะพัฒนาได้ พระธรรมปิฎก (2544 : 342) กล่าวว่า "...มนุษย์เป็นสัตว์ประเสริฐด้วยการศึกษา ธรรมชาติพิเศษที่เป็นส่วนเฉพาะของมนุษย์ คือ เป็นสัตว์ที่ฝึกได้ จะพูดว่า เป็นสัตว์ที่พัฒนาได้ เป็นสัตว์ที่ศึกษาได้ หรือ เป็นสัตว์ที่เรียนรู้ได้ "...สัตว์ อื่นแทบไม่ต้องฝึก เพราะมันอยู่ได้ด้วยสัญชาตญาณ เกิดมาแล้วเรียนรู้จากพ่อแม่ นิดหน่อย ไม่นานเลย มันก็อยู่รอดได้ อย่างลูกวัวคลอดออกมาสักครู่หนึ่ง ก็ลุกขึ้นเดินได้ ไปกับแม่แล้ว ....แต่มันเรียนรู้พอกินอาหารได้แล้วก็ไปหากินเอง และอยู่ด้วยสัญชาตญาณไปจนตลอดชีวิต เกิดมาอย่างไร ก็ตายไปอย่างนั้น หมุนเวียนกันต่อไป ไม่สามารถสร้างโลกของมันต่างหากจากโลกของธรรมชาติ..." "...แต่ มนุษย์นี้ต้องฝึก ต้องเรียนรู้ ถ้าไม่ฝึก ไม่เรียนรู้ ก็อยู่ไม่ได้ ไม่ต้องพูดถึงจะอยู่ดี แม้แต่รอดก็อยู่ไม่ได้ มนุษย์จึงต้องอยู่กับพ่อแม่หรือผู้เลี้ยง เป็นเวลานับสิบปี ระหว่างนี้ก็ต้องฝึกต้องหัดต้องเรียนรู้ไป แม้แต่กิน นั่ง นอน ขับถ่าย เดิน พูด ทุกอย่างต้องฝึกทั้งนั้น มองในแง่นี้เหมือนเป็นสัตว์ที่ด้อย..." "...แต่ เมื่อมองในแง่บวกว่า ฝึกได้ เรียนรู้ได้ ก็กลายเป็นแง่เด่น คือ พอฝึกเริ่มเรียนรู้แล้ว คราวนี้มนุษย์ก็เดินหน้า มีปัญญาเพิ่มพูนขึ้น พูดได้ สื่อสารได้ มีความคิดสร้างสรรค์ ประดิษฐ์อะไรๆได้ มีความเจริญทั้งในทางนามธรรม และทางวัตถุธรรม สามารถพัฒนาโลกของวัตถุ เกิดเทคโนโลยีต่างๆ มีศิลปวิทยาการ เกิดเป็นวัฒนธรรม อารยธรรม จนกระทั่งเกิดเป็นโลกของมนุษย์ซ้อนขึ้นมา ท่ามกลางโลกของธรรมชาติ... สัตว์อื่นอย่างดี ที่ฝึกพิเศษได้บ้าง เช่น ช้าง หมา ม้า ลิง เป็นต้น ก็ฝึกตัวเองไม่ได้ ต้องให้มนุษย์ฝึกให้ แม้มนุษย์ฝึกให้ ก็ฝึกได้ในขอบเขตจำกัด...แต่มนุษย์ฝึกตัวเองได้ และฝึกได้แทบไม่มีที่สิ้นสุด..." "...การฝึกศึกษาพัฒนาตน จึงทำให้มนุษย์กลายเป็นสัตว์ที่ประเสริฐเลิศสูงสุด ซึ่งเป็นความเลิศประเสริฐที่สัตว์ทั้งหลายอื่นไม่มี..." "...หลัก ความจริงนี้สอนว่า มนุษย์มิใช่จะประเสริฐขึ้นมาเองลอยๆ แต่ประเสริฐได้ด้วยการฝึก ถ้าไม่ฝึกแล้วจะด้อยกว่าสัตว์เดรัจฉาน จะต่ำทรามยิ่งกว่า หรือไม่ก็ทำอะไรไม่เป็นเลย แม้จะอยู่รอดก็ไม่ได้...ความดีเลิศประเสริฐของมนุษย์นั้น จึงอยู่ที่การเรียนรู้ ฝึก ศึกษา พัฒนาตนขึ้นไป มนุษย์จะเอาดีไม่ได้ ถ้าไม่มีการเรียนรู้ฝึกฝนพัฒนาตน เพราะฉะนั้น จึงต้องพูดให้เต็มว่ามนุษย์เป็นสัตว์ประเสริฐด้วยการฝึก..." การศึกษาในทัศนะของท่าน ป.ปยุตฺโต การฝึก หรือศึกษา หรือสิกขา คือ 1. การไม่ทำความชั่วทั้งปวงคือ ศีล หรือศีลสิกขา 2. การบำเพ็ญความดี หรือ บำเพ็ญกุศลให้ถึงพร้อมคือ สมาธิ หรือ จิตตสิกขา 3. การทำจิตของตนให้ผ่องใส คือ ปัญญา หรือ ปัญญาสิกขา 10 ขั้น สำหรับการเปลี่ยนชีวิต ให้มีคุณค่าต่อตนเอง คนอื่นและสังคม ( เรียบเรียง จาก damrong pinkoon ) 1. Destination จุดหมายปลายทาง หลักชัย, จุดหมาย, เป้าหมาย, ที่หมาย 2. Attitude ทัศนคติ ความคิดเห็น, ทัศนะ, ความเห็น 3. Know & How ความรู้และทักษะ ความรู้หรือวิธีการ ความชำนาญ 4. Time Value คุณค่าของเวลา 5. Powerful Life ชีวิตที่มีพลัง 6. Law of Life กฎแห่งชีวิต 7. Do Good Things ทำสิ่งที่ดี 8. You are What you do เราทำอะไร เราก็เป็นเช่นนั้น 9. Jump up ก้าวกระโดด 10. Faith ความกตัญญูรู้คุณ Destination จุดหมายปลายทาง หลักชัย, จุดหมาย, เป้าหมาย, ที่หมาย เราเกิดมาทำไม เรามีความฝัน ทำไม เราต้องการจะเป็นโน้นเป็นนี่ ? ความฝันของเราคือ ? ทำไม เราจึงมีความสุข ? ทำไม เราจึงพบแต่ความเศร้า ? อะไรที่เราไม่ชอบ ? เราไม่ชอบเพราะ เราชอบเพราะ ทำไม คนบางส่วน จึงประสบความสำเร็จ ? ทำไม คนบางส่วนมักล้มเหลวเสมอ ? อะไรที่เราต้องการจะทำ และทำอย่างไร ? คนที่ใช้ชีวิตที่ไม่ถูกต้อง จะนำปัญหามากมายมาสู่ชีวิต ขณะที่คนใช้ชีวิตที่ถูกต้อง จะนำความสำเร็จและความสุขมาสู่ชีวิต การเริ่มต้นคิดที่ถูกต้อง เราจะต้องเริ่มต้นที่เป้าหมายชัดเจน ก่อนที่เราจะทำอะไร เราต้องเริ่มด้วยความคิดที่ถูกต้องและการกระทำที่ถูกต้อง หลังจากนั้น เราจะสนุกร่าเริง กับ ความสำเร็จในชีวิต ความสุขมาจากความคิดที่ถูกต้องและการกระทำที่ถูกต้อง เราจำเป็นที่จะใช้ชีวิตของเราอย่างมีเป้าหมาย ไม่ว่าจะใหญ่หรือเล็ก เราต้องมีเป้าหมายยิ่งมีจินตภาพที่ชัดเจนในเป้าหมาย เรายิ่งทำให้ความฝันของเราเข้าใกล้ความจริงมันไม่ใช่ความผิดของเรา หากเราไม่รู้ แต่ มันเป็นความผิด หากเราไม่เข้าใจ ที่จะเลือกชตากรรมของชีวิตเราอย่างไร มันเหมือนกับ คนหนึ่ง เดินไปตามถนน ที่ไม่มีแสงไฟ มีเพียงแต่ความมืด เหมือนกับคนตาบอด เมื่อเราไม่รู้ทิศทางของชีวิต เราไม่รู้ว่า จะไปไหน นี่เป็นเหตุผลว่า ทำไมเราจึงมีชีวิตที่ผิดไปตลอดชีวิต บางคนมีความฝันง่ายๆไม่ยาก เขาก็จะมีความสุขได้ง่าย เช่น การอยู่บ้าน เล่นกับหลาน มีชีวิตง่ายๆ หากเราต้องการความสำเร็จที่ยากขึ้น เช่น งานอาชีพ เราต้องเดินเข้าหามัน ก้าวไปสู่ความฝัน เพราะ ความสำเร็จจะไม่เกิดขึ้น หากเราไม่ทำอะไร อะไรที่เราต้องการที่จะทำ หาความฝันของเรา และทำให้มันเกิดขึ้นเป็นจริง เป้าหมาย จะต้องกำหนดขึ้นอยู่เบื้องหน้าเสมอ แล้วเราต้องตั้งต้นเดินทางไปหามัน ถ้าเรา เริ่มต้นเดินทางโดยไม่มีเป้าหมาย เราก็จะหลงทาง หากเป้าหมายของเรา คือ ความสุข เราต้องทำสิ่งที่ตรงกันข้าม เพราะ ความสุข คือ การไม่ต้องทำอะไร เราต้องเปลี่ยนหรือกำหนดเป้าหมายในการใช้ชีวิตของเรา แล้วเราก็จะได้รับความสุข เป้าหมายชีวิต คือ ทางที่เรากำหนดและเปลี่ยนชีวิต อะไรที่เราต้องการจะเป็น ซึ่งจะเป็นสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับเรา คนจำนวนมาก ไม่รู้ กฎการดำรงชีวิตที่ง่ายธรรมดา ขั้นแรกของชีวิต คือ การใช้สมองและพัฒนาตลอดเวลา ปัจจัยที่สำคัญที่สุดที่จะมีชีวิตที่ดี คือ การเดินทางตามเป้าหมายของตน ทุกคนมีความคิดของตนเอง ความแตกต่างอยู่ที่ “ อะไรที่เราคิด “ คิดถูกและคิดผิด จะนำไปสู่ผลลัพ์ที่ต่างกัน ทุกคนมีชีวิตของตนเอง แต่บางคนไม่รู้ “ อะไร “ ที่จะทำ ที่จะไป เมื่อไหร และอย่างไร สำหรับคนใช้ชีวิตของตน ติดตามเป้าหมาย ไม่ว่าจะสุขหรือทุกข์ ชีวิตจะง่ายกว่า เพราะ เหมือนกับเรากำลังเดินทางไกล แต่เรามีจุดหมายและเป้าหมายที่ชัดเจน ซึ่งเราจะไม่หลงทาง ปัจจัยที่สำคัญที่สุดสำหรับความสำเร็จ คือ เป้าหมาย หรือ จุดหมาย ทุกคนมีความคิดของตนเอง คิดอย่างไร สิ่งที่ดี หรือ ไม่ดี เขาก็จะได้อย่างที่คิด การมีเป้าหมายสุดท้าย จะทำให้ชีวิตดีขึ้น