จากกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจ บช.ปส. จับกุมนายไซซะนะ แก้วพิมพา ชาวลาว ผู้ต้องหาค้ายาเสพติด ก่อนจะขยายผลกระทั่งสามารถจับกุมนายณัฐพล หรือบอย นาคคำ ซึ่งให้การซัดทอดว่าหนึ่งในทรัพย์สินที่ได้มาจากการกระทำความผิดนั้นนำไปไว้ที่นายอัครกิตติ์ วรโรจน์เจริญเดช หรือ "เบนซ์ เรซซิ่ง" สามีของนางเอกสาว แพท ณปภา ตันตระกูล ก่อนที่ภายหลังนายอัครกิตติ์ ถูกแจ้งข้อหาฟอกเงินและสมคบการฟอกเงิน ขณะที่ชุดสืบสวนสอบสวนได้ออกหมายเรียกแพท ณปภา และแม่เบนซ์ มาให้ปากคำหลังพบเงินในบัญชีสูงผิดปกติ มาในวันที่13มี.ค. แต่นางเอกสาวขอเลื่อนให้ปากคำอ้างเอกสารไม่ครบ ก่อนนัดหมายเป็น 17 มี.ค. ตามที่นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น วันนี้ (17 มี.ค.) เมื่อเวลา 10.30 น. ที่กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) แพท ณปภา ตันตระกูล นางเอกสาว พร้อมมารดาของนายอัครกิตติ์ วรโรจน์เจริญเดช หรือเบนซ์ เรซซิ่ง ผู้ดูแล และลูกจ้างร้านแอเรีย 51 เดินทางมาพบพนักงานสอบสวนบช.ปส. โดยมีทนายความส่วนตัวเดินทางมาด้วย โดยนั่งรถเมอเซเดสเบนซ์ สีเทา ทะเบียน 1กร4455 กทม. และรถฟอจูเนอร์ สีขาว ทะเบียน 3กล8403 กทม. ต่อมาเวลา 14.30 น. นางเอกสาวแพท ณปภา ตันตระกูล เดินทางมาให้สัมภาษณ์แก่สื่อมวลชนที่มารอทำข่าวบริเวณลานเอนกประสงค์กองบัญชาการปราบปรามนาเสพติด พร้อมทนายความส่วนตัว นางเอกสาวแพท ณปภา กล่าวว่า ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณพี่ๆนักข่าวที่ให้ความสนใจในคดีนี้ จริงๆอยากจะขอความเห็นใจ เวลาเขียนข่าวหรืออะไร เพราะข่าวก็มีผลกระทบหลายๆอย่าง จึงรู้สึกไม่ค่อยโอเคเท่าไหร่ เพราะส่งผลกระทบต่อครอบครัวตนเอง และครอบครัวของเบนซ์ เรซซิ่งสามีอย่างมาก ก็อยากจะขอร้องทุกคนว่า หากมีการนำเสนอข่าวสารเกี่ยวกับตนเอง ขอให้ไปสอบถามข้อมูลจากเจ้าหน้าที่จะดีกว่า เพราะเจ้าหน้าที่ทุกคนยินดีจะให้ความร่วมมืออยู่แล้ว ในวันนี้มาในฐานะพยาน ยังไม่ถูกจับกุม หรือถูกส่งตัวไปศาลตามที่เป็นข่าวหรืออะไร เป็นเพียงการเดินทางมาให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตามหมายเรียกเท่านั้น ในวันนี้ทางเจ้าหน้าที่ก็สอบถามในช่วง 2 ปี คือ ปี 2559 และปี 2560เท่านั้น ส่วนการสอบปากคำอื่นๆนั้น ตนและทนายก็ได้ยื่นเอกสารทางการเงิน ว่าได้มาอย่างไร หรือได้มาจากใครเรียบร้อยแล้ว คือส่วนตัวก็สงสัยว่าเงินจำนวน 30 ล้านมาจากไหน ซึ่งเงินในบัญชีของตนก็มีไม่ถึงด้วยซ้ำ และเงินทั้งหมดนั้นก็เป็นเงินของตนเอง ก็ไม่เข้าใจว่าจะต้องชี้แจงทำไม ซึ่งตนและเบนซ์ เรซซิ่ง ก็รู้จักกันแค่ 1 ปีเท่านั้น ดังนั้นจะคาดหวังให้รู้เรื่องส่วนตัวของกันและกันนั้น คงจะเป็นไปไม่ได้ และในวันนี้ตนก็ทำหน้าที่ทุกอย่างแล้ว ที่เหลือก็เป็นส่วนของเจ้าหน้าที่ในการรวบรวมเอกสาร และตรวจสอบจ้อเท็จจริง ด้านทนายส่วนตัวนางเอกสาว กล่าวว่า โดยส่วนตัวแล้ว แพทไม่ได้มีส่วนใดๆเลย เพียงแต่ว่าบุคคลใกล้ชิดต้องคดี จึงจะต้องมาชี้แจงกับเจ้าหน้าที่ เชื่อว่าหลักฐานที่ให้เจ้าหน้าที่ไปทั้งหมดตอบได้ทุกอย่าง ส่วนเอกสารสรรพากรที่ยื่นให้ไปนั้น ข้อมูลทุกอย่างก็ชัดเจนอยู่แล้ว เรื่องทุกอย่างก็น่าจะจบแล้ว เพราะไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับแพทแล้ว และแพทเองก็เป็นบุคคลของประชาชนด้วย ด้านพ.ต.อ.สมเกียรติ วรรณสิริวิไล รอง ผบก.อก.บช.ปส. กล่าวว่า วันนี้พยานทั้ง 4 รายคือ แพท มารดาของนายเบนซ์ ผู้จัดการร้านแอเรีย51 และลูกจ้างอีก1คน ได้เข้ามาสอบปากคำในฐานนะพยานตามพ.ร.บ.ฟอกเงินของนายเบนซ์ เรซซิ่ง และนายบอยหรือนายณัฐพล นาคคำ ผู้ต้องหาค้ายาเสพติดในเครือข่ายของนายไซซะนะ แก้วพิมพา พ่อค้ายาเสพติดรายใหญ่ ซึ่งทั้งหมดนั้นได้ให้การชัดเจน มีการนำเอกสารบางส่วนมาชี้แจงถึงที่มาที่ไปของเงินในบัญชี รายได้ก่อนที่แพทจะแต่งงานกับนายเบนซ์ ส่วนเรื่องรถแลมโบกินี่ ทะเบียน กจ. 51 โดยแพทให้การว่าตนไม่มีข้อมูลในเรื่องนี้ ทางด้านการสอบผู้จักการร้านและลูกจ้างให้การว่าเส้นทางการเงินที่มีการโอนเข้า-ออกนั้น ก็ดำเนินการตามคำสั่งของนายเบนซ์ เพื่อที่จะนำไปซื้ออะไหล่รถ ซึ่งอะไหล่นั้นก็มีราคาค่อนข้างสูงอยู่แล้ว ซึ่งหลังจากนี้พนักงานสอบสวนจะนำข้อมูลที่ได้ไปประกอบสำนวน หากพบว่ามีข้อพิรุจหรือสงสัยในส่วนได้ ก็จะเรียกเพื่อมาสอบอีกครั้ง นอกจากนี้จะมีการเรียกเบนซ์มาสอบอีกครั้งยังไม่ได้มีการกำหนดวัน และเวลาใด