วันที่ 23 มี.ค.60 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ท.วิทยา ประยงค์พันธุ์ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ที่ผ่านมา จำนวนใบสั่งที่ส่งผ่านไปรษณีย์ ไม่มีการชำระค่าปรับร้อยละ 80 ในปี 2559 ส่งผลให้มีการฝ่าฝืนกฎจราจร โดยเฉพาะ เรื่องความเร็วจำนวนมาก เดิมกฎหมายไม่ให้อำนาจกรมการขนส่งทางบก ในการตรวจสอบเรื่องการค้างชำระค่าปรับ ซึ่งมาตรา 44 นี้ ได้ให้อำนาจเพิ่มเติมในการตรวจสอบ และรับชำระค่าปรับได้ ซึ่งวันนี้ จะมีการพูดคุยในประเด็นด้านเทคนิค เชื่อมระบบตรวจสอบใบสั่งที่ค้างชำระค่าปรับ โดยคาดว่า จะใช้เวลาไม่เกิน 1 เดือน ซึ่งระหว่างนี้ ผู้ที่ค้างชำระค่าปรับ ตั้งแต่วันที่ 21 มีนาคม ที่กฎหมายบังคับใช้ สามารถไปดำเนินการให้ถูกต้อง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จะปรับรูปแบบใบสั่งให้ทันสมัยมากขึ้น ชัดเจนมากขึ้น และยังสามารถระบุฐานคะแนนที่ถูกตัดแต้มจากการกระทำผิดด้วย รวมถึง รถแทกซี่ปฏิเสธไม่รับผู้โดยสารด้วย หากถูกตัดคะแนนเกิน 60 คะแนน จะต้องเข้าอบรม แต่หากไม่ถูกตัดคะแนนเลย อาจพิจารณายกย่องทางวินัย นายกมล บูรณพงศ์ รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวถึงกรณีไม่คาดเข็มขัดนิรภัย ตามมาตรา 44 โดยระบุว่า จะมีการบังคับใช้กฎหมาย 2 ส่วน คือ กฎหมายรถยนต์ และกฎหมายว่าด้วยการขนส่งทางบก สำหรับรถยนต์นั่งบุคคลไม่เกิน 7 คน ที่จดทะเบียนระหว่างวันที่ 1 ม.ค. 2531 - 31 ม.ค. 2555 และรถแท็กซี่ ที่นั่งคนขับและผู้โดยสารด้านหน้า ต้องมีและใช้คาดเข็มขัดนิรภัย / ส่วนรถแท็กซี่ ที่จดทะเบียน ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2554 กำหนดให้มีเข็มขัดนิรภัยทุกที่นั่ง ส่วนรถตู้ ที่จดทะเบียนตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย. 2555 ต้องมีและใช้เข็มขัดนิรภัย ทุกที่นั่ง ส่วนของรถกระบะ (ปิ๊กอัพ) ในส่วนของผู้ขับขี่และคนนั่งด้านหน้า ต้องมีและใช้เข็มขัดนิรภัย ยกเว้น รถสองแถว รถกระบะมีแคป และรถสามล้อเครื่อง ที่บังคับเฉพาะคนขับและผู้โดยสาร เนื่องจาก ไม่เหมาะแก่การติดตั้งเข็มขัดนิรภัยเพิ่มเติม การบังคับใช้กฎหมายว่าด้วยการขนส่งทางบก กรณีรถบรรทุก บังคับให้มีและใช้เข็มขัดนิรภัย ที่นั่งคนขับและผู้โดยสารตอนหน้า / ส่วนรถโดยสารหมวด 2 และ หมวด 3 ไม่เกิน 20 ที่นั่ง ที่วิ่งระหว่างกรุงเทพมหานครและต่างจังหวัด และวิ่งระหว่างจังหวัด รวมถึง รถบัสขนาดใหญ่ ที่วิ่งในมหาวิทยาลัย จะบังคับให้มีและใช้เข็มขัดนิรภัย ที่นั่งคนขับและผู้โดยสารตอนหน้า รวมทั้ง มีเข็มขัดนิรภัยทุกที่นั่ง โดยจะให้มีผลบังคับใช้ภายใน 30 วันเช่นกัน กรณีรถแท็กซี่ อนุญาตให้บรรทุกผู้โดยสารทั้งคันไม่เกิน 5 คน รวมคนขับ โดยทุกที่นั่งต้องมีและใช้เข็มขัดนิรภัย หากฝ่าฝืน คนขับจะมีความผิดฐานยินยอม ส่วนผู้โดยสารจะมีความผิด ฐานไม่คาดเข็มขัดนิรภัย ปรับคนละไม่เกิน 500 บาท โดยขณะนี้ อยู่ระหว่างประชาสัมพันธ์ให้มีการติดตั้งให้ครบทุกที่นั่ง ซึ่งมาตรการทั้งหมด จะดำเนินการก่อนช่วงเทศสงกรานต์ เพื่อลดอุบัติเหตุ