จังหวัดระนอง ได้ชื่อว่าเป็นเมือง “ฝนแปดแดดสี่” คือ มีปริมาณฝนตกชุก และยาวนานกว่าจังหวัดอื่นๆ ในภาคใต้ ประกอบกับปีนี้ เป็นปีที่พี่น้องชาวภาคใต้ประสบปัญหาฝนตกชุกมีปริมาณฝนตกมากและยาวนานจนกระทั่งเกิดอุทกภัยขึ้นหลายจังหวัด เป็นสาเหตุที่ทำให้พืชผลทางการเกษตรเสียหายจำนวนมาก เกษตรกรในจังหวัดระนองก็เช่นกัน โดยเฉพาะชาวสวนกาแฟ เนื่องจากจังหวัดระนอง เป็นจังหวัดที่มีผู้ปลูกกาแฟมากเป็นอันดับสองของประเทศรองจากจังหวัดชุมพร ปัจจุบัน พบว่า มีพื้นที่ปลูกกาแฟประมาณ 55,000 ไร่ มีผลผลิตประมาณ 5,000 ตัน เพราะมีแร่ธาตุในดินที่อุดมสมบูรณ์ มีภูมิอากาศชุ่มชื้น มีปริมาณน้ำฝนเพียงพอ และได้รับอิทธิพลของน้ำฝนจากทั้งสองฝั่งทะเล เหตุเพราะอยู่กึ่งกลางระหว่างทะเลอันดามันและทะเลในฝั่งอ่าวไทย จึงมีปริมาณน้ำฝนหล่อเลี้ยงความสมบูรณ์ของลำต้น รสชาติกาแฟ การผลิดอกออกผล ตลอดจนหล่อเลี้ยงให้ผลผลิตมีความสมบูรณ์ ได้ผลกาแฟที่มีคุณภาพ มีความเข้มข้นของกาแฟแท้ได้อย่างน่าประทับใจของคนคอกาแฟทั้งหลาย ปีนี้ชาวสวนกาแฟ ต้องประสบปัญหาจากการที่มีฝนตกมากและยาวนานตลอดฤดูกาลเก็บเกี่ยวผลผลิต ชาวสวนนำผลผลิตกาแฟไปตากกับพื้นดินตามวิถีของชาวบ้านที่สืบทอดกันมายาวนานแต่ดั้งเดิม จึงเกิดการเน่าเสีย อับชื้น มีเชื้อรา มีกลิ่นเหม็น รวมทั้งกลิ่นไม่พึงประสงค์มากมาย ทั้งนี้ เพราะฤดูกาลของการเก็บเกี่ยวกาแฟ จะเริ่มต้นจากเดือนตุลาคมจนสิ้นสุดประมาณปลายเดือนมกราคม ซึ่งเป็นช่วงที่ได้รับผลกระทบจากฝนตกทุกปี การที่ชาวสวนกาแฟนำผลผลิต ไปตากกับพื้นดิน พื้นหญ้า หรือเรียกว่า "แบกะดิน" บางแห่งอาจจะมีน้ำเจิ่งนองเมื่อฝนตก หรือบางครั้งเมื่อฝนตกลงมากลางคันชาวสวนอาจจะเก็บผลกาแฟที่ยังไม่แห้งใส่ลงไปในกระสอบ หรือใช้ตาข่ายที่ตากผลกาแฟที่ยังไม่แห้งมัดห่อวางทิ้งไว้กลางสนามหญ้า หรือข้างถนนที่พบเห็นทั่วไปตามทางเข้าหมู่บ้าน จนเกิดการหมักหมม และรอจนกว่าจะมีแสงแดดครั้งใหม่ ในวันต่อๆ มา การกระทำเช่นนี้ ทำให้ผลผลิตที่ได้เกิดเชื้อรา กลิ่นเหม็นติดเนื้อเม็ดกาแฟยาวนาน มีรสเปรี้ยว และเสียคุณภาพ จากปัญหาดังกล่าว นายเจริญ ทองหลอม สหกรณ์จังหวัดระนอง ร่วมกับนายจิรศักดิ์ บริบูรณ์ ผู้อำนวยการกลุ่มส่งเสริมและพัฒนาธุรกิจ สำนักงานสหกรณ์จังหวัดระนอง และนางศิโรรัตน์ แสงศรี ผู้จัดการสหกรณ์การเกษตรศุภนิมิตกระบุรี จำกัด จัดตั้งกลุ่มอาชีพทำกาแฟคุณภาพขึ้น จำนวน 3 กลุ่ม มีสมาชิกกลุ่มรวม 50 คน ในตำบลลำเลียง อำเภอกระบุรี โดยมีเป้าหมายที่การผลิตกาแฟสารให้มีคุณภาพและขายได้ราคาที่สูงขึ้น นางศิโรรัตน์ แสงศรี ผู้จัดการสหกรณ์การเกษตรศุภนิมิตกระบุรี จำกัด กล่าวว่า วิธีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการเก็บเกี่ยวของสมาชิกโดยการแนะนำให้ชาวสวนเก็บกาแฟที่มีผลสุก สีแดงคล้ายลูกเชอร์รี่ ซึ่งเป็นช่วงที่กาแฟมีคุณภาพ และคุณสมบัติของกาแฟที่ดีที่สุดแล้วนำกาแฟเป็นเมล็ดเทลงในภาชนะที่ใส่น้ำแล้วเลือกเอาเฉพาะลูกที่ลอยน้ำออกทิ้งเพราะมีผลผลิตกาแฟไม่สมบูรณ์หรือเสียออกทิ้งจากนั้นก็นำไปสี เปลือกกาแฟกับเครื่องสีกาแฟสดและนำไปแช่น้ำไว้ประมาณหนึ่งคืนเพื่อให้เมือกหรือน้ำตาลที่ติดมารวมทั้งเปลือกของกาแฟให้หลุด จากนั้นก็นำไปล้างน้ำเปล่าทิ้งสองถึงสามน้ำ เพื่อให้ได้กาแฟสารที่มีความสะอาด แล้วก็นำเมล็ดกาแฟที่อยู่ในลักษณะกะลากาแฟไปตากในโรงคลุมพลาสติกหรือ "คอนโดกาแฟ" ที่ชาวสวนกาแฟเรียกขาน ซึ่งได้เรียนรู้จากวิธีการทำโรงตากหมากโบราณ ที่นับเป็นภูมิปัญญาท้องถิ่นแต่ดั้งเดิม “คอนโดกาแฟ” หรือโรงอบเมล็ดกาแฟที่ทำขึ้นในครั้งนี้ ต้องยกชั้นเป็นแคร่สูงจากพื้นดินคล้ายๆ โต๊ะอาหารปูพื้นด้วยไม้ไผ่สับและคลุมพลาสติกเป็นรูปโค้งด้านบน เพื่อเอาไว้กันน้ำฝน มีแสงแดดส่องถึงเมล็ดกาแฟ และที่สำคัญจะมีความร้อนอบอ้าว เป็นผลทำให้กาแฟแห้งในเวลา 6-8 วัน เมล็ดกาแฟที่ได้มีความแห้ง และมีเคมีความหอมของกาแฟที่ถูกแสงแดดที่อบอยู่หลายวัน ช่วยขับให้กาแฟมีกลิ่นหอมปราศจากกลิ่นเหม็นและรสเปรี้ยวเหมือนกับการตากผลผลิตกาแฟที่วาง "แบกะดิน" เหมือนแต่เดิม ผลผลิตกาแฟที่ได้นับว่ามีคุณภาพดี ด้าน นายสมบัติ ค้วนเครือ ผู้จัดการโรงคั่วกาแฟระนอง ตราไข่มุก กล่าว ได้ทดลองนำสารกาแฟคุณภาพของสหกรณ์การเกษตรศุภนิมิตกระบุรี จำกัด ไปคั่วเพื่อเป็นการทดสอบผลปรากฏว่ามีกลิ่นหอมกรุ่น หลังจากที่คั่วผ่านไปใช้เวลา 15 นาที ซึ่งสามารถเปรียบเทียบได้กับกาแฟอาราบิก้าของภาคเหนือ แต่สิ่งสำคัญ คือ มีรสชาติความเข้มข้นของกาแฟโรบัสต้าของภาคใต้ รวมทั้งไม่มีกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ทั้งในเรื่องของการเหม็นตุ หรือกลิ่นอับชื้นจากเชื้อรา รวมทั้ง รสเปรี้ยวที่ทุกคนต่างเข้าใจว่าถ้าหากเป็นกาแฟพันธุ์โรบัสต้าของภาคใต้ต้องมีรสเปรี้ยว เมื่อรวมออร์เดอร์ของพันธมิตรเครือข่ายโรงคั่วกาแฟแล้วปรากฏว่า มีปริมาณความต้องการซื้อจำนวนถึง 20 ตัน โดยรับซื้อในราคากิโลกรัมละ 110 บาท ในขณะที่กาแฟที่ตากแบบดั้งเดิม ตลาดรับซื้อราคา 78-83 บาทเท่านั้น ขณะที่ นายเจริญ ทองหลอม สหกรณ์จังหวัดระนอง กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นการส่งสัญญาณด้านตลาดที่ดี มีความต้องการสารกาแฟคุณภาพ ที่เป็นผลมาจากการที่ชาวสวนได้ร่วมกันปรับเปลี่ยนวิธีทำกาแฟอย่างพิถีพิถัน มีการควบคุมคุณภาพจนมีผลให้กาแฟสารขายได้ราคาดี ผลผลิตถูกเสนอซื้อในราคาที่สูงขึ้นกว่าเดิมจะเป็นสิ่งจูงใจให้ชาวสวนกาแฟ ต่างร่วมกันสร้างโรงเรือนพลาสติกเพื่อตากกาแฟหรือที่เรียกว่า “คอนโดกาแฟ” ขึ้นเต็มลานบ้านแทนวิธีการตากแบบดั้งเดิม หากกลุ่มอาชีพได้ร่วมกันทำในรูปกลุ่มผู้ผลิตและมอบผลผลิตให้กับสหกรณ์เป็นผู้รวบรวมเพื่อนำเสนอแก่ผู้ประกอบการที่ยินดีทำสัญญาการซื้อขายล่วงหน้าหรือ MOU ชาวสวนกาแฟ ได้ตลาดที่แน่นอน ได้ราคาดี ก็จะนับได้ว่า สหกรณ์การเกษตรศุภนิมิตกระบุรี จำกัด ได้แก้ไขปัญหาทางด้านเศรษฐกิจ รวมทั้งได้สนับสนุนในการทำงานร่วมกัน เป็นพลังกลุ่มในสังคมเพื่อสร้างความมันคง มั่งคั่ง และยังยืน ให้แก่คนในชาติ สืบต่อไป