วันนี้ (1 เม.ย.60) นายเสฐียรพงษ์ อินเพน สหกรณ์จังหวัดสุรินทร์ ลงพื้นที่ติดตามนางสาวชุติมา บุณยประภัศ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และคณะ เพื่อตรวจราชการพบปะเกษตรกรในพื้นที่นาแปลงใหญ่ (ใหม่) รับฟังปัญหาที่พบในการดำเนินงานที่ผ่านมา และแนวทางการแก้ปัญหาของกลุ่มฯ และหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้เกษตรกรได้รับประโยชน์สูงสุดจากการเข้าร่วมโครงการนาแปลงใหญ่
จุดที่ 1 ณ กลุ่มผู้ผลิตข้าวพันธุ์ดีบ้านกันจารย์ ต.จารพัต อ.ศีขรภูมิ จ.สุรินทร์ เกษตรกรสมัครเข้าร่วมโครงการจำนวน 4 กลุ่ม คือ ม.1 มีสมาชิก 34 ราย พื้นที่ 688 ไร่,ม.8 มีสมาชิก 68 ราย พื้นที่ 1,078 ไร่,ม.14 มีสามชิก 80 ราย พื้นที่ 1,500 ไร่ และม.15 มีสมาชิก 87 ราย มีพื้นที่ 1,088 ไร่ ในเบื้องต้นได้ทำความเข้าใจในเรื่องการทำนาแปลงใหญ่แก่สมาชิกที่สมัครเข้าร่วมโครงการ สำหรับการเพาะปลูกในปี 2560 จะเริ่มประมาณเดือนพฤษภาคม เรื่องน้ำในหมู่บ้านมีฝายชะลอน้ำแล้ว แต่ต้องการให้ขุดลอกเพิ่มเติม ให้โครงการชลประทานสุรินทร์ดำเนินการ และรองผู้ว่าราชการจังหวัดดูแลในส่วนของงบประมาณ
จุดที่ 2 ณ บ้านหนองจิก ม.1 ต.หนองบัว อ.ศีขรภูมิ มี 18 หมู่บ้าน ทุกหมู่บ้านส่วนใหญ่สมัครเข้าร่วมกลุ่มเป็นนาแปลงใหญ่ เพื่อต้องการลดต้นทุนและเพิ่มผลผลิต การใช้สิทธ์ในการยืมใช้อุปกรณ์การผลิต เช่น เครื่องหยอดข้าวฯ และต้องการองค์ความรู้ทางวิชาการจากหน่วยงานของรัฐมาช่วยเสริม ซึ่งเจ้าหน้าที่ของรัฐทุกหน่วยงานจะเข้ามาพบกับเกษตรกรอีกครั้งก่อนการเริ่มทำนา ซึ่ง ต.หนองบัว จะเริ่มทำนาในเดือนพฤษภาคม ในด้านชลประทานจะทำการขุดลอกลำห้วย และขุดลอกห้วยหนองจิกให้ลึกขึ้นเพื่อให้สามารถเก็บน้ำไว้ใช้และสามารถทำประปาหมู่บ้านได้ด้วย
จุดที่ 3 ณ บ้านหนองเหล็กตาช้าง ต.เมืองลีง อ.จอมพระ มีเกษตรกรสมัครเข้าร่วมโครงการฯ จำนวน 7 กลุ่ม ด้วยเจตนารมณ์ร่วมกันของเกษตรกร คือ ต้องการลดต้นทุน ต้องการขายผลผลิตให้ได้ราคาสูงขึ้น และต้องการปลูกข้าวปลอดภัยโดยค่อยๆ ลดการใช้สารเคมี และมีกลุ่มข้าวอินทรีย์
ทั้งนี้ ทุกจุดที่ได้ตรวจเยี่ยม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ฝากให้ประธานกลุ่มกำกับ ดูแล การบริหารจัดการแปลงให้ได้คุณภาพ ได้มาตรฐาน เพื่อความยั่งยืน และสมาชิกของกลุ่มได้รับประโยชน์สูงสุด พร้อมเน้นย้ำเรื่องการบริหารจัดการรถเกี่ยวข้าวให้เป็นระบบเพื่อไม่ให้เกษตรกรเสียโอกาส และให้การเก็บเกี่ยวเป็นไปตามระยะเวลา
จุดที่ 1 ณ กลุ่มผู้ผลิตข้าวพันธุ์ดีบ้านกันจารย์ ต.จารพัต อ.ศีขรภูมิ จ.สุรินทร์ เกษตรกรสมัครเข้าร่วมโครงการจำนวน 4 กลุ่ม คือ ม.1 มีสมาชิก 34 ราย พื้นที่ 688 ไร่,ม.8 มีสมาชิก 68 ราย พื้นที่ 1,078 ไร่,ม.14 มีสามชิก 80 ราย พื้นที่ 1,500 ไร่ และม.15 มีสมาชิก 87 ราย มีพื้นที่ 1,088 ไร่ ในเบื้องต้นได้ทำความเข้าใจในเรื่องการทำนาแปลงใหญ่แก่สมาชิกที่สมัครเข้าร่วมโครงการ สำหรับการเพาะปลูกในปี 2560 จะเริ่มประมาณเดือนพฤษภาคม เรื่องน้ำในหมู่บ้านมีฝายชะลอน้ำแล้ว แต่ต้องการให้ขุดลอกเพิ่มเติม ให้โครงการชลประทานสุรินทร์ดำเนินการ และรองผู้ว่าราชการจังหวัดดูแลในส่วนของงบประมาณ
จุดที่ 2 ณ บ้านหนองจิก ม.1 ต.หนองบัว อ.ศีขรภูมิ มี 18 หมู่บ้าน ทุกหมู่บ้านส่วนใหญ่สมัครเข้าร่วมกลุ่มเป็นนาแปลงใหญ่ เพื่อต้องการลดต้นทุนและเพิ่มผลผลิต การใช้สิทธ์ในการยืมใช้อุปกรณ์การผลิต เช่น เครื่องหยอดข้าวฯ และต้องการองค์ความรู้ทางวิชาการจากหน่วยงานของรัฐมาช่วยเสริม ซึ่งเจ้าหน้าที่ของรัฐทุกหน่วยงานจะเข้ามาพบกับเกษตรกรอีกครั้งก่อนการเริ่มทำนา ซึ่ง ต.หนองบัว จะเริ่มทำนาในเดือนพฤษภาคม ในด้านชลประทานจะทำการขุดลอกลำห้วย และขุดลอกห้วยหนองจิกให้ลึกขึ้นเพื่อให้สามารถเก็บน้ำไว้ใช้และสามารถทำประปาหมู่บ้านได้ด้วย
จุดที่ 3 ณ บ้านหนองเหล็กตาช้าง ต.เมืองลีง อ.จอมพระ มีเกษตรกรสมัครเข้าร่วมโครงการฯ จำนวน 7 กลุ่ม ด้วยเจตนารมณ์ร่วมกันของเกษตรกร คือ ต้องการลดต้นทุน ต้องการขายผลผลิตให้ได้ราคาสูงขึ้น และต้องการปลูกข้าวปลอดภัยโดยค่อยๆ ลดการใช้สารเคมี และมีกลุ่มข้าวอินทรีย์
ทั้งนี้ ทุกจุดที่ได้ตรวจเยี่ยม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ฝากให้ประธานกลุ่มกำกับ ดูแล การบริหารจัดการแปลงให้ได้คุณภาพ ได้มาตรฐาน เพื่อความยั่งยืน และสมาชิกของกลุ่มได้รับประโยชน์สูงสุด พร้อมเน้นย้ำเรื่องการบริหารจัดการรถเกี่ยวข้าวให้เป็นระบบเพื่อไม่ให้เกษตรกรเสียโอกาส และให้การเก็บเกี่ยวเป็นไปตามระยะเวลา