วันนี้ 12 มีนาคม 2563 เวลา 13 25 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา เสด็จแทนพระองค์ ไปยังเรือนจำกลางเชียงใหม่ ตำบลสันมหาพน อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ ในการพระราชทานเครื่องมือแพทย์ และอุปกรณ์ทางการแพทย์ ตามโครงการราชทัณฑ์ปันสุข ทำความดี เพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ซึ่งเป็นเรือนจำเป้าหมายแห่งที่ 18 โดยได้พระราชทานเครื่องมือแพทย์แก่ผู้บัญชาการเรือนจำกลางเชียงใหม่ ผู้อำนวยการทัณฑสถานหญิงเชียงใหม่, พระราชทานรถเอกซเรย์เคลื่อนที่แก่ผู้อำนวยการโรงพยาบาลนครพิงค์, พระราชทานหนังสือเพื่อใส่ในมุมสุขภาพ ราชทัณฑ์ปันสุข แก่หัวหน้าสถานพยาบาลเรือนจำกลางเชียงใหม่ และหัวหน้าสถานพยาบาลทัณฑสถานหญิงเชียงใหม่ จากนั้น เสด็จไปยังอาคารพยาบาล ทรงเปิดแพรคลุมป้าย “มุมสุขภาพ ราชทัณฑ์ ปันสุข” ซึ่งเป็นมุมส่งเสริมสุขภาพให้แก่ผู้ต้องขัง และมีหนังสือพระราชทานให้ค้นคว้าหาความรู้เพิ่มเติม โอกาสนี้ ทอดพระเนตร ยูนิตทันตกรรมพระราชทาน มีทันตแพทย์ จากโรงพยาบาลแม่แตง เข้ามาให้บริการทุกวันพฤหัสบดี รวมทั้ง คณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และทันตบุคลากร จังหวัดเชียงใหม่ เข้ามาให้บริการปีละ 1 ครั้ง ต่อจากนั้น เสด็จไปยังอาคารเรือนนอนผู้ต้องขังชายป่วย ทอดพระเนตรห้อง Telemedicine ห้องให้การรักษาแพทย์ทางไกลจากโรงพยาบาลสวนปรุง ด้านจิตเวช ในการนี้ พระราชทานถุงพระราชทานให้แก่ผู้ต้องขังชายป่วย จำนวน 6 คน ผู้ต้องขังชราและพิการ จำนวน 20 คน ทั้งนี้ เรือนจำกลางเชียงใหม่ มีผู้ต้องขังติดเชื้อเอชไอวี รวม 150 คน ซึ่งได้รับการดูแลตามมาตรฐานของกระทรวงสาธารณสุข โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี กรมหมื่นสุทธนารีนาถ ทรงเป็นทูตสันถวไมตรีของโครงการโรคเอดส์แห่งสหประชาชาติในการป้องกันเอชไอวีในภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก ทำให้กระทรวงสาธารณสุข ได้เข้ามาประสานและช่วยเหลือผู้ต้องขังมากขึ้น ส่งผลให้ผู้ต้องขังได้รับการดูแลอย่างถูกต้อง และมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น พร้อมกันนี้ ทอดพระเนตรกิจกรรมต่าง ๆ อาทิ การสาธิตของอาสาสมัครสาธารณสุขในเรือนจำชาย หรือ อสจร.ชาย ในการช่วยเหลือผู้ป่วย ปัจจุบัน มีการอบรม อสจร. จำนวน 188 คน เพื่อทำหน้าที่ส่งเสริมสุขภาพ ป้องกันโรค ถ่ายทอดความรู้และดูแลสุขภาพกันเองเบื้องต้น, การฝึกวิชาชีพ มีผู้ต้องขังนำความรู้ที่ตนเองมี มาสอนเพื่อนผู้ต้องขัง อาทิ พานบายศรี ธูปเทียนแพ, การปั้นปูน, การแกะสลักไม้ และการปั้นขี้เลื่อย โดยผลิตภัณฑ์ที่ได้ ใช้ในเรือนจำ และจำหน่ายในงานนิทรรศการผลิตภัณฑ์ราชทัณฑ์ประจำปี นอกจากนี้ มีหน่วยงานต่าง ๆ เข้ามาอบรมให้ความรู้เรื่องนวดแผนโบราณ,ทำโคมล้านนา, การพิมพ์ผ้า และวาดภาพ แก่ผู้ต้องขังที่ใกล้พ้นโทษ เพื่อให้มีทักษะนำไปประกอบอาชีพสร้างรายได้ ในการนี้ ทรงมีพระดำรัสให้ส่งเสริมอาชีพที่เกี่ยวกับศิลปวัฒนธรรมท้องถิ่นล้านนา ซึ่งนอกจากทำให้เกิดความสวยงาม และอนุรักษ์วัฒนธรรมท้องถิ่นให้คงอยู่แล้ว ศิลปะ ยังช่วยฟื้นฟู และบำบัดสภาพจิตใจของผู้ต้องขัง ตามพระบรมราโชบายของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ได้พระราชทานไว้แก่โครงการราชทัณฑ์ปันสุขฯ ด้วย จากนั้น เสด็จไปยังแดน 4 ทอดพระเนตรตัวอย่างการบำบัดน้ำเสียของเรือนจำ ซึ่งเรือนจำกลางเชียงใหม่ ได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับที่ 1 “การประกวดนวัตกรรมของกรมราชทัณฑ์ปีงบประมาณ 2561 การบำบัดน้ำเสีย” โดยใช้คลองส่งน้ำช่วยบำบัด มีการบำบัดน้ำเสียเบื้องต้นที่เกิดจากการอุปโภคบริโภคของผู้ต้องขัง (Primary Treatment) และการบำบัดน้ำเสียที่เกิดจากสิ่งปฏิกูลต่าง ๆ โดยได้รับการตรวจคุณภาพน้ำจากส่วนวิเคราะห์คุณภาพสิ่งแวดล้อม ผลการตรวจผ่านเกณฑ์ค่ามาตรฐาน นอกจากนี้ มีการนำน้ำที่ผ่านระบบบำบัดนำกลับมาใช้ใหม่ ในการฝึกวิชาชีพภายนอกเรือนจำ และใช้รดน้ำต้นไม้ในเรือนจำ ทั้งนี้ ด้านการบำบัดน้ำเสีย จะเป็นตัวอย่างหนึ่งของการนำไปปรับใช้ในเรือนจำอื่น ๆ ทั่วประเทศ ตามแผนโครงการราชทัณฑ์ปันสุขฯ ในระยะต่อไป ก่อนเสด็จกลับ ทอดพระเนตรการแสดงของผู้ต้องขัง ชุด อวยชัย ราชทัณฑ์ปันสุข ปัจจุบัน เรือนจำกลางเชียงใหม่ มีผู้ต้องขัง จำนวน 7,076 คน มีผู้ต้องขังป่วยด้วยโรคเรื้อรัง จำนวน 299 คน