เผย บึ้มปัตตานี 2 จุด ตลาดนัดบ่อทอง-คาร์บอมข้างโรงแรม ไม่เกี่ยวข้องระเบิดและวางเพลิง 7 จังหวัดภาคใต้ วันที่ 24 ส.ค.59 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ต.ปิยะพันธ์ ปิงเมือง รองโฆษก ตร. กล่าวถึงกรณีเกิดเหตุระเบิด 2 จุด เมื่อคืนวันที่ 23 ส.ค. ที่ผ่านมา ในพื้นที่ จ.ปัตตานี ว่า เมื่อเวลาประมาณ 22.00 น. ของคืนวันที่ 23 ส.ค. คนร้ายได้วางระเบิด 2 จุด โดยจุดแรกเป็นเหตุคาร์บอมบริเวณลาดจอดรถของโรงแรมเซาท์เทิร์นวิว ทำได้มีผู้เสียชีวิต 1 คน และได้รับเจ็บกว่า 30 ราย จากนั้นอีก 1 ชั่วโมงถัดมา คนร้ายได้วางระเบิดอีกครั้งบริเวณตลาดนัดบ่อทอง ต.บ่อทอง อ.หนองจิก จ.ปัตตานี แต่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต ซึ่งทั้ง 2 จุดนั้น เป็นเหตุที่เกิดขึ้นในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นประจำอยู่แล้ว ในชั้นนี้ยังไม่พบความเชื่อมโยงใดๆ กับเหตุการณ์วางระเบิดและวางเพลิงในพื้นที่ 7 จังหวัดภาคใต้ที่ผ่านมา ต้องขอเวลาตรวจสอบ เพราะเหตุการณ์เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อคืน อีกทั้งยังยืนยันว่า เหตุระเบิดดังกล่าวไม่ส่งผลกระทบกระทบต่อการเจรจาสันติสุข ปารามาตานี 3 จังหวัดชายแดนใต้แต่อย่างใด "เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ก็เป็นเช่นนี้ ซึ่งรัฐบาลได้มีการเพิ่มความเข้ม โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้ารักษาความสงบแห่งชาติ และพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีการสั่งการและประสานกับทุกฝ่ายอย่างชัดเจน จากสถิติการเกิดเหตุในพื้นที่ของศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศชต.) ในปีที่ผ่านมา ตนยืนยันว่า เหตุที่เกิดขึ้นลดลงเกือบ 30% โดยความเสียหาย ทั้งผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตก็ลดลง 30% เช่นเดียวกัน ขณะเดียวกันก็มีผลการจับกุมอย่างต่อเนื่อง แต่ไม่สามารถเปิดเผยให้รายละเอียดตรงนี้ได้ และเชื่อว่าในไม่ช้าจะมีการจับกุมผู้ก่อเหตุอย่างต่อเนื่องเช่นเดียวกัน" ถามว่า ภาพสเก็ตคนร้ายเหตุการณ์วางระเบิดและวางเพลิงในพื้นที่ 7 จังหวัดภาคใต้ ที่ปรากฏในโซเชี่ยลมีเดีย เป็นภาพจริงของหรือไม่ พล.ต.ต.ปิยะพันธ์ กล่าวว่า ในสังคมโซเชี่ยลมีเดียนำมาปะติดปะต่อกันเอง ตนไม่สามารถยืนยันได้ ส่วนภาพดังกล่าวที่สอดคล้องกับภาพของผู้ต้องสงสัยในกล้องวงจรปิดหรือไม่นั้น ต้องไปถาม พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) ในฐานะหัวหน้าทีมงานสืบสวนสอบสวน ส่วนจะมีการออกหมายจับผู้ต้องสงสัยตามภาพสเก็ตหรือไม่นั้น ถ้าหากพยานหลักฐานเป็นไปได้ ก็ว่าไปตามกระบวนการสืบสวนสอบสวน ยังคาดการณ์ไม่ได้ ต้องอยู่ที่พฤติการณ์ พฤติเหตุ พยานแวดล้อม วัตถุพยาน และพยานทางเทคโนโลยี ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่สามารถออกหมายจับได้ ต้องขอให้ศาลเป็นผู้ออกหมายจับอยู่ดี อย่างไรก็ตาม เรื่องของข้อมูลข่าวสารที่มาจากคนละทิศ คนละทาง โดยบ่อเกิดของข่าวที่มาคนละจุดคนละที่ มันจะเกิดความคลาดเคลื่อนทางข้อมูลได้ แต่ข้อเท็จจริงในกระบวนการสืบสวนสอบสวนต้องรอฟังจากแหล่งข่าว เช่นกรณีนี้ที่ทีมงานโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาตินำมาแถลงข่าว ให้รอฟังจากทีมงานโฆษก อะไรที่สามารถเปิดเผยได้ ก็จะนำมาพูดคุยกับสื่อมวลชน แต่อะไรที่ทำให้รูปคดีเสียหายนั้น ขอให้ให้อดใจรอ และให้เวลาเจ้าหน้าที่ตำรวจทำงาน ซึ่งขณะนี้คดีระเบิดและวางเพลิง 7 จังหวัดมีความคืบหน้าไปเยอะทีเดียว ผู้สื่อข่าวถามว่า กรณีของนายศักรินทร์ คฤหัสถ์ จะมีการสอบปากคำเพิ่มเติม และมีการออกหมายจับอีกครั้งหรือไม่ พล.ต.ต.ปิยะพันธ์ กล่าวว่า พล.ต.อ.ศรีวราห์ ได้ระบุแล้วเมื่อวันที่ 24 ส.ค. ที่ผ่านมาว่า ศาลทหารไม่อนุมัติการออกหมายจับ ด้วยเหตุผลด้านข้อกฎหมาย คงต้องกลับมาดำเนินการตามกระบวนการอีกครั้ง และต้องมีการสืบสวนสอบสวนต่อไป ส่วนจะมีการประเมินหรือไม่ว่าศาลจะไม่อนุมัติออกหมายจับนั้น เราไม่อาจประเมินตรงนี้ได้ ตำรวจมีหน้าที่รวบรวมพยานหลักฐานไปขอศาลให้ออกหมายจับ และศาลจะพิจารณาเองตามพยานหลักฐานที่มีอยู่ขณะนั้น ซึ่งยังต้องรวบรวมพยานหลักฐานอีกนิดหน่อย