จัดงานงาน “โครงการหลวง 48” “ยกคุณค่าจากยอดดอย สู่ใจกลางกรุง” มูลนิธิโครงการหลวง ประกาศจัดงาน “โครงการหลวง 48”ตั้งแต่วันที่ 4 – 14 สิงหาคม 2560 ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ภายใต้คอนเซ็ปต์ “ยกคุณค่าจากยอดดอย สู่ใจกลางกรุง” ครั้งแรกกับผลิตภัณฑ์ไฮไลท์ทรงคุณค่า นำโดย ข้าวพื้นที่สูง 2 สายพันธุ์หายาก, ปลาสเตอร์เจียนรมควัน, ปลาเรนโบว์เทราต์,ฟิก,แป้งบัควีท, เห็ดหลินจือผสมน้ำมันรำข้าว, กาแฟผสมเห็ดหลินจือแดง, ชาขาว ชมความงดงามของการตกแต่งดอกไม้ในคอนเซ็ปต์THE ART OF BOTANICAL LIVING เติมคุณค่าให้ชีวิตกับศิลปะลายเส้นดอกไม้ การจัดงานได้เปิดแถลงแก่สื่อมวลชนไปแล้วโดยมีหม่อมเจ้าภีศเดช รัชนี ประธานมูลนิธิโครงการหลวง เป็นประธานร่วมด้วย ดร.ณรงค์ชัย พิพัฒน์ธนวงศ์ ผู้อำนวยการฝ่ายตลาด มูลนิธิโครงการหลวง, นายพิพัฒพงศ์ อิศรเสนา ณ อยุธยา กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดอยคำผลิตภัณฑ์อาหาร จำกัดและ คุณหญิงสุจิตรา จิราธิวัฒน์ มงคลกิติ รองประธานกรรมการบริษัท กลุ่มเซ็นทรัลจำกัด มาร่วมบอกเล่าถึงรายละเอียดงานและมีการสาธิตการประกอบอาหารโดย ขาบ-สุทธิพงษ์ สุริยะ ฟู้ดสไตลิสต์ชื่อดัง พร้อมด้วยแขกรับเชิญ อาทิ มุกดา จิราธิวัฒน์ เอื้อวัฒนะสกุล, รัตนา จิราธิวัฒน์ นรพัลลภ, ม.ร.ว.ดัจฉราพิมล รัชนี, วิมลภัทร์ เปี่ยมพงศ์สานต์, ม.ล.เอวิตา ยุคล, แพรวปรียา ชุมสาย ณ อยุธยา, พิมพ์พยัพ ศรีกาญจนา และ ณัฏฐ์กรม์ ชุณหะวัณ เป็นต้นร่วมงาน หม่อมเจ้าภีศเดช รัชนี ประธานมูลนิธิโครงการหลวง ตรัสถึงลูกฟิก ผลิตภัณฑ์แนะนำประจำปีนี้ว่า “เวลาผมเห็นมะเดื่อฝรั่ง ผมคิดถึงพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ครั้งแรกที่ท่านเห็นลูกฟิก ท่านก็รับสั่งว่า เมื่อครั้งที่ท่านยังทรงพระเยาว์ เวลามีอาการประชวรเล็กน้อย พระราชมารดาจะถวายมะเดื่อให้เสวย เวลาได้เห็นสิ่งที่ในหลวง รัชกาลที่ 9 ได้นำมาปลูกในโครงการหลวง ก็จะนึกถึงเวลาที่ท่านเสด็จพระราชดำเนินไปบนดอยที่ลำบาก เห็นทีไรก็คิดถึงท่านมาก และต้องฝากว่าของที่เราเอามาขายไม่ใช่ของโครงการหลวง แต่เป็นของชาวเขาที่เขาเก็บมาได้ โครงการหลวงก็ทำหน้าที่คัดเช็ด ล้าง แล้วส่งไปขาย ขายได้เท่าไหร่ก็หักค่าใช้จ่ายนิดๆ หน่อยๆ แล้วส่งให้ชาวเขาหมดเลย โครงการหลวงไม่ได้ขายของเอากำไรเลย ชาวเขาได้กำไร” หม่อมเจ้าภีศเดช ยังตรัสถึงศูนย์พัฒนาโครงการหลวงลำดับที่ 39 พื้นที่บ้านเลอตอ ตำบลแม่ตื่น อำเภอแม่ระมาด จังหวัดตาก ว่า ในอดีตพื้นที่ตรงนี้เป็นพื้นที่ที่มีการปลูกฝิ่น เคยได้ยินทหารและตำรวจบอกว่าตัดไปก็ไม่มีประโยชน์ เพราะตัดตรงนี้เขาก็ไปปลูกฝิ่นตรงอื่น จึงได้แนะนำวิธีกำจัดฝิ่นของในหลวง รัชกาลที่ 9 คือเอาพืชเมืองหนาวไปให้เขาปลูก และดูแลช่วยเอาไปขายให้เรียบร้อย ปัจจุบันโครงการนี้ได้รับความร่วมมือจากกลุ่มคนเหล่านี้เป็นอย่างดี ชาวบ้านมีรายได้จากการปลูก ผลบุญที่เราได้รับจากการช่วยเขาในครั้งนี้ จึงขอทูลเกล้าถวายเป็นพระราชกุศลให้พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ดร.ณรงค์ชัย พิพัฒน์ธนวงศ์ ผู้อำนวยการฝ่ายตลาด มูลนิธิโครงการหลวง กล่าวถึงวัตถุประสงค์การจัดงานว่าเพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ทำให้เกษตรกรบนพื้นที่สูงปลูกพืชเมืองหนาวทดแทนการปลูกฝิ่น สร้างรายได้ เกิดเป็นอาชีพที่มั่นคงยั่งยืน และเพื่อเฉลิมพระ เกียรติเนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9และขอเชิญชมนิทรรศการ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร กับโครงการหลวง “โครงการปลูกพืชทดแทนฝิ่นสำเร็จเป็นโครงการแรกของโลก” และงานแสดงทางวิชาการหัวข้อ “มูลนิธิโครงการหลวง และผลสำเร็จของการพัฒนาบนพื้นที่สูง”4-14 สิงหาคมนี้ ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ม.ร.ว.ดัจฉราพิมล รัชนี กล่าวว่าสำหรับข้าวกล้องเหลือง และข้าวกล้องไก่ป่า ได้ลองทานดูแล้ว แนะนำว่าเวลาหุงให้ใส่น้ำมากหน่อยจะได้ข้าวที่นิ่มพอดี รสชาติคล้ายข้าวกล้องดอย ส่วนแป้งบักหวีด ก็สามารถนำไปทำขนมปังหรือวาฟเฟิลได้ ทั้งยังได้แนะนำ ดร.ณรงค์ชัย พิพัฒน์ธนวงศ์ ผอ.ฝ่ายตลาด มูลนิธิโครงการหลวง ว่าให้เอาเปลือกบักหวีดไปยัดไส้หมอน เราจะได้หมอนที่ให้ความคงตัว ไม่ยวบเวลานอนเป็นการนำวัสดุเหลือมาใช้ให้เกิดประโยชน์มากที่สุดถ้าเป็นไปได้ก็อยากให้ฝ่ายหัตถกรรมทำออกมาวางจำหน่ายทันงานโครงการหลวง 48 นี้ ด้าน ขาบ-สุทธิพงษ์ สุริยะ ฟู้ดสไตลิสต์ชื่อดัง กล่าวว่า ภายในงานโครงการหลวง 48 จะมีกิจกรรมสาธิตการประกอบอาหารทุกๆ วันโดยเชฟจิตอาสาทั้งดาราและคนดังจากทุกวงการ เมนูที่นำมาสาธิตในวันนี้คือ เมนู “ปอเปี๊ยะสดบอกรัก” เมนูที่เป็นตัวแทนแห่งความจงรักภักดีของคนไทยทุกคนที่มีต่อในหลวง รัชกาลที่ 9 ในปอเปี๊ยะประกอบไปด้วยผักโครงการหลวงนานาชนิด ไม่ว่าจะเป็น แรดิชวิจัย, แรดิชิโอ, กะหล่ำม่วง ทานคู่กับน้ำจิ้มที่ทำจากฮอยซินซอสผสมขิง พริกแห้ง และน้ำมะขามเปียก แรงบันดาลใจในการจัดแต่งก็มาจากปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงตามแนวพระราชดำริ ตนนำใบตองซึ่งถือเป็นความงามขั้นพื้นฐานที่ไม่ต้องปรุงแต่งมากมายมาใช้ ผนวกกับการจับคู่แม่สีที่อยู่ในพืชผักและดอกไม้ต่างๆ “เมื่อจบงานแล้วสิ่งเหล่านี้ก็จะถูกทิ้งและสามารถย่อยสลายเป็นปุ๋ยต่อไปได้ หน้าที่ของผมคือการสนับสนุนพืชพรรณและผลผลิตโครงการหลวง ผมตระหนักดีว่า ในหลวง รัชกาลที่ 9 ทรงทำเพื่อประชาชนมาตลอด เพื่อให้ชาวไทยได้รับประทานของที่มีคุณภาพ และอยากให้คนไทยสืบสานพระราชปณิธานของท่านต่อๆ ไปแม้ว่าท่านจะไม่อยู่แล้ว แต่สิ่งที่ท่านสร้างขึ้นมายังคงอยู่” สุทธิพงษ์ สุริยะย้ำ ทางด้าน วิมลภัทร์ เปี่ยมพงศ์สานต์ บอกว่า “ฟิก” ของโครงการหลวงได้รับการพัฒนาสายพันธุ์ให้ดีขึ้นเรื่อยๆ เป็นผลไม้เพื่อสุขภาพที่เป็นที่นิยมในต่างประเทศมาก ปีนี้โครงการหลวงจึงเลือกฟิกมาเป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์แนะนำ ด้วยรสชาติหวานอ่อนๆ เหมาะที่จะนำไปทำขนม เช่น พาย, แยม หรือจะทานสดก็อร่อย ตนชอบทานผลสดบีบวิปครีมหรือใส่เนยแข็งเพิ่มความอร่อยอยากให้คนไทยได้ลิ้มลองรสชาติดูสักครั้งแล้วจะติดใจ และเนื่องจากงานโครงการหลวง 48 จัดในช่วงวันแม่ จึงขอจะเลือกซื้อ “แคปซูลผักรวมโครงการหลวง” เป็นของขวัญให้คุณแม่ ท่านชอบทานผักบางทีท่านจะอิ่มก่อนถึงจานผัก อาหารเสริมตัวนี้จึงเป็นตัวเลือกที่ดี ทานง่าย ได้ประโยชน์ครบถ้วน ขอเชิญประชาชนที่สนใจ เที่ยวชมและเลือกซื้อผลิตภัณฑ์จากโครงการหลวงกว่า 3,000 รายการ ในงาน “โครงการหลวง 48” ระหว่างวันที่ 4-14 สิงหาคมนี้ณศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่: 086-300-1472 หรือ 084-940-8080และ 081-928-7702