พบป่วยเกือบ 5 หม่นราย เตือนพ่อแม่ดูแลเด็กเล็กป่วยใกล้ชิด พร้อมขอความร่วมมือโรงเรียนคัดกรองเด็กก่อนเข้าห้อง พบป่วยต้องแยก-แจ้งพ่อแม่มารับกลับบ้าน นพ.เจษฎา โชคดำรงสุข อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ในช่วงฤดูฝนนี้มักพบเด็กเล็กป่วยด้วยโรคมือ เท้า ปาก โดยเฉพาะในสถานศึกษาที่เป็นสถานที่ที่มีเด็กอยู่รวมกันจำนวนมาก ทำให้เกิดความเสี่ยงในการแพร่กระจายเชื้อโรคได้ง่าย จากข้อมูลของสำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค สถานการณ์โรคมือ เท้า ปาก ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. – 16 ส.ค. 60 พบผู้ป่วยแล้ว 49,019 ราย และเสียชีวิต 3 ราย ในจังหวัดจันทบุรี ราชบุรี และร้อยเอ็ด ส่วนพื้นที่ที่ควรติดตามและเฝ้าระวังเป็นพิเศษ คือจังหวัดที่มีอัตราป่วยสูงกว่าค่าเฉลี่ยกลางเท่ากับ 2 เท่าขึ้นไป มี 8 จังหวัด ได้แก่ เชียงราย น่าน เชียงใหม่ พิษณุโลก พะเยา แม่ฮ่องสอน ลพบุรี และสุราษฎร์ธานี ทั้งนี้ เกิดจากเชื้อเอนเทอโรไวรัสหลายชนิด แต่ชนิดที่รุนแรงมากและเสี่ยงต่อเสียชีวิตมากกว่าสายพันธุ์ทั่วไป คือ EV71 พบได้มากในเด็กเล็กอายุต่ำกว่า 5 ปี ซึ่งมีภูมิคุ้มกันต่ำ การติดต่อเกิดจากการได้รับเชื้อทางปากโดยตรง ซึ่งเชื้อไวรัสจะติดมากับมือหรือของเล่นที่เปื้อนน้ำมูก น้ำลาย น้ำจากแผลตุ่มพองหรืออุจจาระของผู้ป่วย หรือติดต่อจากการ ไอ จาม รดกัน โรคนี้อาจมีอาการเล็กน้อย เช่น มีไข้ ผื่น ตุ่มน้ำใส หรือเม็ดแดงๆ ในปาก ฝ่ามือ ฝ่าเท้า หรือก้น ซึ่งหายได้เอง ใน 7-10 วัน โรคนี้ไม่มียารักษา ไม่มีวัคซีน จะรักษาตามอาการ หากเด็กมีอาการแทรกซ้อน เช่น ไข้สูง ซึม อาเจียน หอบ ต้องรีบนำส่งโรงพยาบาลทันที กรมฯได้ขอความร่วมมือสถานศึกษา.คัดกรองเด็กทุกเช้าก่อนเข้าเรียน หากพบเด็กป่วยให้แยกออกมา และแจ้งผู้ปกครองมารับกลับและให้พักฟื้นจนกว่าจะหาย, สอนให้เด็กล้างมือบ่อยๆ และจัดให้มีจุดล้างมือ พร้อมสบู่หรือแอลกอฮอล์เจล,หากพบเด็กป่วยเป็นจำนวนมาก ควรพิจารณาปิดสถานศึกษาเพื่อชะลอการระบาดและการแพร่กระจายเชื้อ,ให้ความรู้และคำแนะนำเกี่ยวกับโรคแก่นักเรียนและผู้ปกครอง สำหรับพ่อแม่ ผู้ปกครอง ควรสังเกตอาการบุตรหลานอย่างใกล้ชิด หากมีไข้ร่วมกับแผลในปาก โดยอาจมีหรือไม่มีตุ่มน้ำที่มือหรือเท้าก็ได้ บางรายอาจมีเฉพาะไข้ ควรรีบพาไปพบแพทย์และให้หยุดเรียนจนกว่าจะหายเป็นปกติ และไม่ควรคลุกคลีกับคนอื่นๆ ในครอบครัวหรือชุมชน เพื่อชะลอการระบาดและการแพร่กระจายเชื้อ สอบถามเพิ่มเติมที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร 1422