ตำรวจศรีสะเกษ เรียกผู้กองเหน่งมาแจ้งข้อหาเพิ่มเติมอีก 3 ข้อหา หนักสุดคือ ฆ่าคนตาย เจ้าตัวให้การปฏิเสธ ตำรวจมั่นใจในพยานหลักฐาน เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 30 ต.ค.60 ที่กองกำกับการสืบสวน ภ.จว.ศรีสะเกษ นายทหารพระธรรมนูญ นำตัว ร.อ.ศุภชัย ภาโส หรือผู้กองเหน่ง ผบ.ร้อยอาวุธเบาที่ 2 กองพันทหารราบที่ 2 กรมทหารราบที่ 6 ค่ายสรรพสิทธิ์ประสงค์ จ.อุบลราชธานี ผู้ต้องหาในคดีการหายตัวไปของ น.ส.จุฑาภรณ์ อุ่นอ่อน หรือ ผอ.อ้อย ผอ.กองการศึกษา อบต.ชำ อ.กันทรลักษ์ มาพบพนักงานสอบสวน เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาเพิ่มเติม โดยมี พล.ต.ต.สุคุณ พรหมายน รอง ผบช.ภ.3 และพล.ต.ต.สุรเดช เด่นธรรม ผบก.ภ.จ.ศรีสะเกษ ร่วมสอบสวน การสอบสวนและแจ้งข้อหาเสร็จสิ้นเมื่อเวลา 13.30 น. พล.ต.ต. สุรเดช เด่นธรรม ผบก.ภ.จ.ศรีสะเกษ เปิดเผยว่า หลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ส่งกะโหลกศรีษะมนุษย์ กระดุก เส้นผม ชิ้นส่วนต่างๆ กระโปรง เข็มขัด นาฬิกา ไปตรวจและทราบผลตรวจแล้วว่า ดีเอ็นเอจากกระดุกที่ส่งไปตรวจตรงกับดีเอ็นเอของนาวสาว จุฑาภรณ์ อุ่นอ่อน หรือ ผอ.อ้อย วันนี้ พนักงานสอบสวนได้เรียก ร้อยเอก ศุภชัย ภาโส หรือผู้กองเหน่ง ผู้ต้องหาในคดีนี้ มาสอบปากคำพร้อมกับแจ้งข้อหาเพิ่มเติมอีก 3 ข้อหา คือ ฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนา,กักขังหน่วงเหนี่ยวเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และปิดบัง อำพรางซ่อนเร้นศพ ซึ่งทาง ร้อยเอกศุภชัยได้ให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา แต่ตำรวจมั่นใจในพยานหลักฐาน แต่ก็ต้องรวบรวมให้ครบถ้วนและรอบคอบ และคงจะสรุปสำนวนส่งพนักงานอัยการได้ในเร็วๆ นี้ ผบก.ภ.จ.ศรีสะเกษ กล่าวต่อว่า หลังจากที่สอบสวนและแจ้งข้อกล่าวหาเสร็จแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวร้อยเอก ศุภชัย ส่งไปฝากขังต่อศาลจังหวัดกันทรลักษ์ พร้อมกับยื่นคำร้องว่า พนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อหาเพิ่มเติมแก่ผู้ต้องหา ในข้อหาฆ่าคนตาย ซึ่งมีอัตราโทษสูงสุดถึงประหารชีวิต จึงขอคัดค้าการประกันตัว เนื่องจากเกรงว่าผู้ต้องหาจะหลบหนี หรือไปยุ่งเหยิง ทำลายพยานหลักฐานในคดี พล.ต.ต.สุรเดช กล่าว ด้าน น.ส.สมปอง อุ่นอ่อน พี่สาวของ น.ส.จุฑาภรณ์ กล่าวว่า ถ้ามีโอกาสได้พูดกับผู้กองเหน่งที่เป็นผู้ต้องหานี้ ก็อยากจะบอกว่าให้ออกมารับสารภาพ ตัวเองเป็นลูกผู้ชายชาติทหาร กล้าทำแล้วต้องกล้ารับ อย่าเอาแต่ปฏิเสธถ้ารับสารภาพออกมาแล้วทุกอย่างก็จะได้จบ ศาลจังหวัดกันทรลักษ์ ได้พิจารณาคำร้องของพนักงานสอบสวนที่ยื่นขอฝากขังและขอคัดค้านการประกันตัวแล้ว เห็นว่าเป็นคดีอุกฉกรรจ์ และมีอัตราโทษร้ายแรงเกรงว่าจะหลบหนี จึงไม่อนุญาติให้ปล่อยตัวชั่วคราว ร.อ.ศุภชัยจึงต้องนอนในเรือนจำคืนนี้เป็นคืนแรก