เมื่อวันที่ 1 พ.ย. 2560 นายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล อดีตรองประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรณีที่คณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ(คสช.) ยังไม่พิจารณาปลดล๊อกให้พรรคการเมืองทำกิจกรรมได้ หลังจากประกาศใช้พ.ร.บ.พรรคการเมืองไปแล้วเมื่อต้นเดือนต.ค.ที่ผ่านมา ว่า วันนี้เรา ต้องยอมรับว่าอำนาจเบ็ดเสร็จยังอยู่ในมือของคสช.และรัฐบาล แต่ก็เชื่อว่าคสช. และรัฐบาลคงเข้าใจว่าเมื่อกฎหมายมีข้อกำหนดให้ดำเนินการตามมาตรานั้นๆได้ภายในกี่วัน เช่น 90 วัน 180 วันนั้น คสช. คงจะได้หารือกับรัฐบาลเพื่อที่จะขยายเวลาตามห้วงเวลาที่เสียไป เช่นประกาศใช้พระราชบัญญัติเมื่อวันที่ 7 ตุลาคมที่ผ่านมานั่นหมายความว่ามีผลทันที และเมื่อถึงวันที่ประกาศปลดล็อคทางการเมืองแล้วเวลาล่วงไปจำนวนกี่วัน คสช. กับรัฐบาลคงจะใจกว้างขยายเวลาให้กับพรรคการเมืองได้ดำเนินการตามวันเวลาที่หายไปนั้น ซึ่งถ้าเป็นแบบนี้เชื่อว่าพรรคการเมืองสามารถทำงานต่างๆได้ทัน แต่ถ้าไม่ขยายเวลาเชื่อว่าตรงนั้นจะเป็นอุปสรรค ซึ่งคสช. และรัฐบาลก็คงรู้ เมื่อได้ฟังนายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานกรรมการร่างรัฐธรรมนูญให้สัมภาษณ์แล้วก็คิดว่ามีแนวโน้มที่น่าจะขยายเวลาออกไปให้ “ เมื่อคุณยังไม่ประกาศปลดล็อค ถึงวันที่คุณจะประกาศนั้นเวลากินไปกี่วัน คสช. ก็ต้องใช้อำนาจของคสช. ขยายเวลาให้ เช่น กินเวลามา 60 วันก็ควรขยายเวลาต่อไปให้อีก 60 วันเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาในการปฏิบัติงานของแต่ละพรรคการเมือง เมื่อเวลากินไปเท่าไหร่หลังจากประกาศปลดล็อคการเมืองแล้วเพื่อให้พรรคการเมืองสามารถทำงานได้เป็นไปตามพระราชบัญญัติประกอบและธรรมนูญก็ควรจะขยายเวลาให้ ซึ่งถ้าเป็นอย่างนี้ผมเชื่อว่าแต่ละพรรคการเมืองสามารถยอมรับข้อเท็จจริงที่จะเกิดขึ้นได้เพราะไม่ได้เสียประโยชน์นัก” ส่วนกฎหมายลูก ที่ยังเหลืออยู่ก็อยากให้คณะกรรมาธิการ ของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) ได้ทำตามห้วงเวลาที่ถูกกำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว 2557 และรัฐธรรมนูญใหม่ 2560 ที่ได้บัญญัติไว้ว่าจะต้องทำให้แล้วเสร็จภายในกี่วัน ซึ่งถ้าหากทำได้เสร็จตามเวลานั้น ก็ไม่น่าจะเกิดปัญหาเพราะยังไม่ได้ประกาศลงในราชกิจจานุเบกษา คือยังไม่ได้เริ่มต้น ไม่เหมือนกับพระราชบัญญัติพรรคการเมือง ที่ประกาศลงในราชกิจจานุเบกษาเรียบร้อยแล้ว