กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข สำรวจคุณภาพผลิตภัณฑ์ทรายกำจัดลูกน้ำที่จำหน่ายในท้องตลาด พบว่า ทุกตัวอย่างมีคุณภาพเป็นไปตามมาตรฐาน นายแพทย์สุขุม กาญจนพิมาย อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวว่า โรคไข้เลือดออกเป็นโรคติดต่อที่เป็นปัญหาสำคัญทางสาธารณสุขของประเทศ โดยมีสาเหตุมาจากเชื้อไวรัสเดงกีสามารถติดต่อกันโดยมียุงลายเป็นพาหะนำโรคแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลายที่สำคัญคือ แหล่งน้ำขังต่างๆ โดยเฉพาะภาชนะที่เก็บน้ำกินน้ำใช้ การป้องกันสามารถทำได้หลายวิธี และวิธีหนึ่งคือการใส่ทรายกำจัดลูกน้ำ หรือที่รู้จักและเรียกกันติดปากว่า “ทรายอะเบท” เป็นทรายที่มีการเคลือบด้วยสารกำจัดแมลงทีมีฟอส (temephos) ลงในแหล่งน้ำเพื่อกำจัดลูกน้ำยุง ซึ่งสารทีมีฟอสเป็นสารเคมีกำจัดแมลงชนิดออร์กาโนฟอสเฟต มีกลิ่นเหม็น สลายตัวได้ง่ายเมื่อถูกแดดหรือความร้อน มีความเป็นพิษต่ำต่อคนและสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมแต่มีความเป็นพิษสูงต่อลูกน้ำยุง ริ้น แมลงวันฝอยทราย แมลงหวี่ขน แมลงวันริ้นดำ เหา และสัตว์ปีก ทรายกำจัดลูกน้ำ จัดเป็นวัตถุอันตรายที่ใช้ทางสาธารณสุขชนิดที่ 3 ผู้ประกอบการต้องขอขึ้นทะเบียนผลิตภัณฑ์และขออนุญาตจากเจ้าหน้าที่ก่อนทำการผลิต นำเข้า หรือส่งออกและต้องมีการแสดงเลขทะเบียนวัตถุอันตรายและฉลากตามที่กฎหมายกำหนดไว้ ดังนั้นกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ร่วมกับ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.)จัดทำโครงการเก็บตัวอย่างผลิตภัณฑ์ทรายกำจัดลูกน้ำ เพื่อเฝ้าระวังและตรวจสอบคุณภาพผลิตภัณฑ์ว่ามีคุณลักษณะเป็นไปตามที่ได้ขึ้นทะเบียนไว้กับ อย. หรือไม่ โดยสุ่มเก็บตัวอย่างผลิตภัณฑ์ทรายกำจัดลูกน้ำที่จำหน่ายในท้องตลาดจำนวน 31 ตัวอย่าง นำมาตรวจสอบทางห้องปฏิบัติการทั้งทางด้านเคมี หาปริมาณสารสำคัญ และทางกายภาพโดยการทดสอบขนาดของผลิตภัณฑ์ทรายกำจัดลูกน้ำ ความสามารถผ่านตะแกรงกรอง (Sieving test) และความหนาแน่นที่ปรากฏ (Apparent density) ผลการตรวจ พบว่า ทุกตัวอย่างมีคุณภาพเป็นไปตามมาตรฐานกำหนด คิดเป็นร้อยละ 100 แสดงว่าผลิตภัณฑ์ดังกล่าวมีคุณภาพทั้งทางเคมีและทางกายภาพ และกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ได้กำหนดแผนติดตามคุณภาพผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง นายแพทย์สุขุม กล่าวต่ออีกว่า องค์การอนามัยโลก (WHO) แนะนำให้ใช้ทรายกำจัดลูกน้ำใส่ในแหล่งน้ำ นายแพทย์สุขุม กาญจนพิมาย อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เพื่อกำจัดลูกน้ำยุง เป็นการป้องกันไม่ให้ยุงที่เป็นพาหะนำโรคหลายชนิดแพร่พันธุ์ได้ แต่จะต้องใช้ในอัตราส่วนที่ถูกต้องจึงจะกำจัดลูกน้ำยุงได้ ทั้งนี้จะต้องใช้งานตามวิธีใช้ที่ระบุในฉลาก เช่น ทรายกำจัดลูกน้ำยุงสูตรที่มีทีมีฟอส 1% โดยน้ำหนัก เวลาใช้จะต้องนำไปใส่ในน้ำที่อัตราส่วนทรายอะเบท 1 กรัมต่อน้ำ 10 ลิตร หรือถ้าใช้สูตรที่มีทีมีฟอส 2% โดยน้ำหนักให้ใช้ในอัตราส่วน 0.5 กรัมต่อน้ำ 10 ลิตร โดยจะออกฤทธิ์ทำลายระบบประสาทและการหายใจของลูกน้ำยุงภายใน 1 ชั่วโมง ออกฤทธิ์อยู่ได้นาน 3 เดือน ซึ่งอัตราส่วนต่อปริมาณน้ำ การเก็บรักษา วันหมดอายุ และวิธีการใช้เหล่านี้มีความสำคัญต่อคุณภาพของทรายกำจัดลูกน้ำ และควรปฏิบัติตามคำแนะนำและคำเตือนเพื่อความปลอดภัยในการใช้งาน เช่น ถูกผิวหนัง ต้องล้างออกด้วยน้ำสบู่ ถ้าเปื้อนเสื้อผ้าให้รีบถอดออกแล้วเปลี่ยนใหม่ทันที หากเข้าตาให้ล้างออกด้วยน้ำสะอาดจนอาการระคายเคืองทุเลาลง หากกลืนกิน ทำให้อาเจียนโดยดื่มน้ำ 2 แก้ว แล้วรีบนำส่งแพทย์ทันที นอกจากนี้สำหรับหน่วยงานภาครัฐที่จะนำทรายกำจัดลูกน้ำยุงไปแจกจ่ายให้กับประชาชนจะต้องมีการให้ความรู้เรื่องการใช้ที่ถูกต้องเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดในการกำจัดลูกน้ำยุง