วันนี้ (20 พ.ย.60) นายบำรุง รื่นบรรเทิง รองผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก เป็นประธานเปิดโครงการสินเชื่อเพื่อรวบรวมข้าวและสร้างมูลค่าเพิ่ม โดยสถาบันเกษตรกรระดับจังหวัดพิษณุโลก ครั้งที่ 2/2560 เพื่อพิจารณาทบทวนคุณสมบัติและให้ความเห็นชอบแก่สถาบันเกษตรกรกู้ยืมไปใช้เป็นทุนหมุนเวียนในการรวบรวมผลผลิตข้าวจากเกษตรกรสมาชิก โดยมีนายสมศักดิ์ แสนศิริ สหกรณ์จังหวัดพิษณุโลก พร้อมด้วย นายราชันย์ นครจินดา ผู้อำนวยการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร จังหวัดพิษณุโลก และคณะอนุกรรมการจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุม ณ ห้องประชุมกาสะลอง ชั้น 3 สำนักงานสหกรณ์จังหวัดพิษณุโลก นายบำรุง รื่นบรรเทิง นายบำรุง รื่นบรรเทิง รองผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก กล่าวว่า ตามที่คณะรัฐมนตรี ได้อนุมัติในหลักการโครงการสินเชื่อเพื่อรวบรวมข้าวและสร้างมูลค่าเพิ่มโดยสถาบันเกษตรกร ปีการผลิต 2560/61 โดยมีธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธกส.) ดำเนินการตามนโยบาย เพื่อให้สถาบันเกษตรกรรวบรวมข้าว จำนวน 2.5 ล้านตันข้าวเปลือก วงเงินสินเชื่อ จำนวน 12,500 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ย ร้อยละ 1 ต่อปี ระยะเวลากู้ 1 ปี เพื่อเสริมสภาพคล่องให้แก่สถาบันเกษตรกรในการรวบรวมข้าวเปลือกและชะลอปริมาณข้าวเปลือกออกสู่ตลาดพร้อมกันในช่วงฤดูการเก็บเกี่ยว เพื่อการเก็บรักษาข้าวเปลือกไว้สำหรับแปรรูปเป็นข้าวสาร สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลผลิตข้าวเพื่อช่วยเหลือเกษตรกร นายสมศักดิ์ แสนศิริ ด้าน นายสมศักดิ์ แสนศิริ สหกรณ์จังหวัดพิษณุโลก กล่าวว่า ที่ประชุมได้พิจารณาทบทวนคุณสมบัติและให้ความเห็นชอบแก่สถาบันเกษตรกรเดิม ที่เข้าร่วมโครงการสินเชื่อเพื่อรวบรวมข้าวและสร้างมูลค่าเพิ่มโดยสถาบันเกษตรกร ปีการผลิต 2560/61 รวม 3 สหกรณ์ วงเงินสินเชื่อ 100,000,000 บาท ประกอบด้วย 1. สหกรณ์การเกษตรนิคมฯ บางระกำ จำกัด จำนวน 40,000,000 บาท 2. สหกรณ์การเกษตรพรหมพิราม จำกัด จำนวน 40,000,000 บาท 3. สหกรณ์ผู้ใช้น้ำชลประทานวัดพริก จำกัด 20,000,000 บาท ตามแผนธุรกิจการรวบรวมข้าวของแต่ละสหกรณ์ ซึ่งจะดำเนินการตามขั้นตอนเพื่อขออนุมัติวงเงินสินเชื่อผ่านธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธกส.) ต่อไป สหกรณ์จังหวัดพิษณุโลก กล่าวอีกว่า ในปีที่ผ่านมา สหกรณ์ได้ดำเนินการรวบรวบรวมและรับซื้อผลผลิตข้าวเปลือกจากเกษตรกรสมาชิกและเกษตรกรทั่วไป จำนวน 2,206 ราย ผลการรวบรวมข้าวเปลือก มีปริมาณ 28,809.62 ตัน มูลค่า 175,971,283 บาท ผลการขับเคลื่อนโครงการฯ ทำให้เกษตรกรสมาชิกได้รับประโยชน์จากการขายผลผลิตข้าวและมีรายได้เฉลี่ยเพิ่มขึ้น 5,000 - 6,000 บาท ต่อปี