หลังพบความเสียหายทั้งตัวเสาและพื้นที่โดยรอบ จากทั้งแดดฝนลม ทาน้ำยากันเชื้อรา-ปลวก ใช้เวลา 150 วัน เมื่อวันที่ 12 ธ.ค.60 พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯกทม. เป็นประธานในพิธีเจริญพระพุทธมนต์ ในพิธีบวงสรวงเสาชิงช้า ณ บริเวณวัดสุทัศนเทพวรารามราชวรมหาวิหาร จากนั้นเวลา 13.00 น. ผู้ว่าฯกทม. เดินทางมายังโบสถ์พราหมณ์เพื่อสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ และเป็นประธานในพิธีบวงสรวงเสาชิงช้า โดยมีพระมหาราชครูพิธีศรีวิสุทธิคุณ วิบูลย์เวทย์บรมหงส์พรมพงศ์ พฤฒาจาริย์ ประกอบพิธี ร.ต.ต.เกรียงศักดิ์ โลหะชาละ ประธานสภากทม. คณะผู้บริหารกทม.ร่วมพิธี ณ บริเวณเสาชิงช้า ผู้ว่าฯกทม.กล่าวว่า เสาชิงช้านับเป็นสถานที่สำคัญของกทม. และมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเยี่ยมเป็นจำนวนมาก อย่างไรก็ตาม นับตั้งแต่การบูรณะซ่อมแซมตั้งแต่ปี 50 เป็นต้นมา เสาชิงช้าซึ่งต้องตั้งอยู่กลางแดด โดนฝนและลมอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้เนื้อสีหลุดร่อน ขาดความสวยงาม กทม.จึงได้ขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตเพื่อปรับปรุง รวมทั้งหารือกับกรมศิลปากรในส่วนรายละเอียดต่างๆด้วย สำหรับงบฯในการปรับปรุงครั้งนี้ ประมาณ 2 ล้านบาท และกำหนดระยะเวลาดำเนินการ 150 วัน ทั้งนี้ เสาชิงช้ากำหนดสร้างขึ้นเมื่อวันที่ 8 เม.ย. พ.ศ. 2327 ในสมัยรัชกาลที่ 1 เพื่อประกอบการโล้ชิงช้า ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของพระราชพิธีตรียัมปวาย - ตรีปวาย อันเป็นพระราชพิธีสำคัญพระราชพิธีหนึ่งในพระราชพิธี 12 เดือนที่ปฏิบัติสืบเนื่องมาแต่ครั้งกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี โดยจะจัดประมาณเดือน ธ.ค. ถึงต้นเดือน ม.ค. ในเวลาเช้า ขึ้น 7 ค่ำ และเวลาเย็น ขึ้น 9 ค่ำ เดือนยี่ พระมหากษัตริย์ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งข้าราชการชั้นผู้ใหญ่เป็นประธานในพิธี เรียกว่า พระยายืนชิงช้า และให้บริวารพราหมณ์ที่แข็งแรงขึ้นโล้ชิงช้า พิธีนี้ปฏิบัติสืบเนื่องมาจนถึงสมัยต้นรัชกาลที่ 8 จึงยกเลิกไป ถึงแม้ว่าจะได้ยกเลิกการโล้ชิงช้าในพระราชพิธีตรียัมปวาย – ตรีปวายไปแล้ว แต่เสาชิงช้ายังเป็นโบราณสถานที่สำคัญแห่งหนึ่งของกทม. กรมศิลปากรได้ขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานสำคัญของชาติ เมื่อวันที่ 22 พ.ย. พ.ศ. 2492 ต่อมาเสาชิงช้าได้ชำรุดเสียหายจึงได้ซ่อมแซมบูรณะเปลี่ยนไม้เสาชิงช้ามาหลายครั้ง ในปี 47 ไม้เสาชิงช้าชำรุดผุในเนื้อไม้ทุกส่วนจนไม่อาจบูรณะซ่อมแซมได้ กทม.จึงบูรณปฏิสังขรณ์เสาชิงช้าขึ้นใหม่ โดยความเห็นชอบจากกรมศิลปากรและได้รับความร่วมมือจากก.ทรัพยากร ธรรมชาติฯให้ใช้ไม้สักทองจากอ.เด่นชัย จ.แพร่ มาใช้ทำไม้เสาชิงช้า ในการนี้ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร เสด็จฯทรงพระสุหร่ายเหนือแท่นจารึกเสาชิงช้า เมื่อวันพุธที่ 12 ก.ย.50 ขณะที่ปัจจุบันสำนักผังเมือง กทม. ตรวจพบความเสียหายบริเวณเสาชิงช้าและพื้นที่โดยรอบ จึงขอจัดสรรงบฯ เพื่อซ่อมแซมงานสถาปัตยกรรมให้อยู่ในสภาพที่ดี เพื่อให้เสาชิงช้าสง่างาม ยับยั้งการชำรุดเสื่อมสภาพ ยืดอายุให้ยืนยาว และคงไว้ซึ่งคุณค่ามรดกทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของชาติต่อไป สำหรับรายละเอียดการปรับปรุง ประกอบด้วย งานปูน ได้แก่ ทำความสะอาดพื้นผิวบริเวณที่พองร่อน และเสื่อมสภาพ มีเชื้อราและตะไคร่น้ำ ทาน้ำยาฆ่าเชื้อราชนิดพิเศษ ฉาบปรับแต่งพื้นผิวที่เป็นรอยแตกร้าวลายงา ทาน้ำยากันชื้น งานผิวโลหะเหล็ก ได้แก่ ซ่อมสีฟิล์มที่เสียหาย ขจัดคราบสนิม พ่นสีกันสนิม งานผิวไม้ ได้แก่ ทาสีรองพื้นไม้กันเชื้อรา ทาน้ำยารักษาเนื้อไม้ ทาสี งานปูกระเบื้องดินเผาฐานเสาชิงช้า งานปูกระเบื้องดินเผาพื้น งานคันหิน งานไฟLED UPLIGHTงานไฟLED SPOT Light มีกำหนดแล้วเสร็จภายในเดือน มี.ค. 61