อีกไม่กี่ชั่วโมงถึงกำหนดการ นายกฯ พลเอกประยุทธ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เดินทางตรวจราชการที่ อ.คำม่วงและ อ.เขาวง จ.กาฬสินธุ์ ฝ่ายความมั่นคงและเจ้าหน้าที่ รปภ. ตรึงกำลังเข้มพร้อมรักษาความปลอดภัยและอำนวยความสะดวก ขณะที่ชาวบ้านเขตพื้นที่นำท่วม 6 เดือน โวยผู้บริหารจังหวัด จัดโรดโชว์เอาหน้า เมินสนใจแก้ปัญหาเรื่องปากท้อง ถามว่า...ทำไมไม่นำพามาเยี่ยมพื้นที่น้ำท่วม ที่ชาวบ้านประสบกับความเดือดร้อน? วันที่ 12 ธ.ค.60 ตามกำหนดการในวันพรุ่งนี้ 13 ธ.ค. “บิ๊กตู่” พลเอกประยุทธ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและคณะ มีกำหนดเดินทางมาตรวจราชการที่ จ.กาฬสินธุ์ โดยเฮลิคอปเตอร์จากท่าอากาศยานทหาร 2 ดอนเมือง กรุงเทพมหานคร เพื่อตรวจราชการ 2 อำเภอ คือ อ.คำม่วง และ อ.เขาวง ภาคเช้าที่ ต.โพน อ.คำม่วง ชมวิถีชีวิตชาวภูไทที่ศูนย์วัฒนธรรมภูไท และที่ศูนย์ศิลปวัฒนธรรมผู้ไทยผ้าไหมแพรวาเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี ซึ่งจะมีการมอบเครื่องจักรกลการเกษตรและมอบโค กระบือ ตามโครงการธนาคารโค กระบือให้แก่ผู้แทนเกษตรกร ขณะที่ภาคบ่ายเดินทางไปที่อ่างเก็บน้ำลำพะยังตอนบน ต.สงเปลือย อ.เขาวง เพื่อดูวิธีการบริหารจัดการน้ำ และฟังบรรยายสรุป ที่วิทยาลัยเทคนิคเขาวง ทั้งนี้ ในส่วนของการต้อนรับและฝ่ายอำนวยความสะดวก ฝ่ายความมั่นคง จ.กาฬสินธุ์ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ อปพร.ประจำตำบล ได้ตรึงกำลังและพร้อมที่จะปฏิบัติหน้าที่รักษาความปลอดภัยอย่างเข้มข้น อย่างไรก็ตาม ในช่วงที่เฝ้ารอคอยต้อนรับ พลเอกประยุทธ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พบว่าประชาชนชาว จ.กาฬสินธุ์ โดยเฉพาะในเขตประสบภัยพิบัติน้ำท่วมนาน 6 เดือน จากอิทธิพลพายุตาลัสและเซินกาหลายอำเภอ ได้ออกมาแสดงความรู้สึกน้อยใจ และเสียโอกาสที่ไม่ได้ร่วมต้อนรับ เนื่องจากทราบจากทางการว่าฝ่ายที่ควบคุมการต้อนรับจำกัดจำนวนคน และไม่ให้ยื่นหนังสือโดยตรงกับ ฯพณฯท่านนายกรัฐมนตรี นายสุภัทรชัย หันจรัส ตัวแทนภาคประชาชนและผู้แทนเกษตรกร อ.ร่องคำ จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า ในเบื้องต้นที่ทราบกำหนดการ พลเอกประยุทธ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและคณะ จะเดินทางมาตรวจราชการที่ อ.คำม่วง และ อ.เขาวง ในวันพรุ่งนี้ (13 ธ.ค.60) ตนและพี่น้องเกษตร โดยเฉพาะผู้ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม ทั้งในเขต อ.ร่องคำ อ.กมลาไสย อ.ยางตลาด และ อ.ฆ้องชัย ซึ่งกำลังได้รับความเดือดร้อนมานานกว่า 6 เดือน และอยู่ระหว่างรอคอยความช่วยเหลือด้านเงินชดเชย รู้สึกดีใจและอบอุ่นใจ โดยหวังว่าทางผู้บริหารจังหวัดจะจัดคิวให้ ฯพณฯ ท่านนายกรัฐมนตรีมาตรวจเยี่ยม และดูสภาพพื้นที่ปัญหาประสบภัยน้ำท่วม แต่เมื่อทราบกำหนดการแล้วกลับไม่มา ซึ่งเท่ากับว่าไม่นำพามาดูปัญหา ไม่มาดูแลทุกข์สุขของชาวบ้าน นายสุภัทรชัยกล่าวอีกว่า จากการกำหนดเส้นทางของผู้บริหารจังหวัด และกำหนดให้ ฯพณฯ ท่านนายกรัฐมนตรี ไปดูวิถีชาวผู้ไทยบ้านโพน และดูอ่างเก็บน้ำลำพะยังตอนบนนั้น ตนและเพื่อนเกษตรกรชาว จ.กาฬสินธุ์ ที่กำลังได้รับความเดือดร้อน ซึ่งต่างก็ตกอยู่สภาพน้ำตาไหลนองหน้า มากกว่าปริมาณน้ำที่ท่วมผืนนานั้น ต่างรู้สึกน้อยใจและเสียโอกาส ที่จะได้ป่าวร้องทุกข์ และนำเรียนปัญหาปากท้องให้ฯพณฯท่านนายกรัฐมนตรีได้ทราบ หาแนวทางแก้ไข หลังจากได้มาเห็นสภาพปัญหาที่กำลังเผชิญอยู่จริงๆ ไม่ใช่จัดโรดโชว์ผลงานเอาหน้าจากการนำเสนอผ่านจอโปรเจ็คเตอร์เท่านั้น ก็จึงอยากจะถามผู้บริหารจังหวัดว่า ทำไมต้องนำพา ฯพณฯ ท่านนายกรัฐมนตรีไปดูพื้นที่ที่เจริญแล้ว ฯพณฯนายกรัฐมนตรี มาเยือนกาฬสินธุ์ทั้งที น่าที่จะมาดูพื้นที่ที่ประสบปัญหา ไม่ใช่จัดฉากเสนอสิ่งดีๆ ที่มองแล้วไม่ต่างกับปิดหูปิดตานายกฯและปิดปากชาวบ้าน” อย่างไรก็ตาม ตนและเพื่อนเกษตรกร พี่น้องชาวนาที่ประสบกับความเดือดร้อน ได้เตรียมเอกสารและหนังสือร้องทุกข์ เพื่อยื่นให้กับ ฯพณฯ ท่านพลเอกประยุทธ จันทร์โอชา ด้วยตนเองแล้ว แต่หลังจากทราบว่าทางฝ่ายต้อนรับจำกัดพื้นที่ และไม่ให้ยื่นหนังสือกับท่านนายกรัฐมนตรีโดยตรง แต่จะให้ยื่นกับโต๊ะรับเรื่องของศูนย์ดำรงธรรม ก็จะยังไม่ยื่น เพราะไม่มั่นใจในการแก้ไขปัญหาของภาคราชการ เนื่องจากตนและชาวบ้านคนอื่นๆ ได้ยื่นไว้แล้วหลายเรื่อง เช่น การร้องเรียนทุจริตถนนผี ของ อบต.สามัคคี อ.ร่องคำ ตั้งแต่ปี 2558 แต่ยังไม่ได้รับการแก้ไข และกลายเป็นว่าชาวบ้านที่ร้องเรียน ถูกอำนาจรัฐแก้เกี้ยว โดยการส่งฟ้องศาลและมีหมายเรียกจากศาลจังหวัดกาฬสินธุ์มาหา ก็เท่ากับว่าชาวบ้านไม่ได้รับความเป็นธรรม ยังถูกอำนาจรัฐกลั่นแกล้ง ทั้งนี้ ยังอยากจะหาโอกาสไปยื่นกับฯพณฯท่านนายกรัฐมนตรีด้วยตนเองในโอกาสต่อไป” นายสุภัทรชัยกล่าว