“พรเพชร”แนะรอศาลฏีกาตอบกลับ ปม สรรหากกต.เปิดเผยหรือลับ ชี้ไม่ทำให้กกต.ชุดใหม่สะดุด เมื่อเวลา 12.20 น.วันที่ 18 ธ.ค.ที่รัฐสภา นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) กล่าวว่าตนได้ทำหนังสือสอบถามการสรรหากรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) 2คน ไปยังศาลฎีกาแล้ว ตั้งแต่เมื่อวันที่ 15 ธ.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งขณะนี้รอการตอบกลับจากศาลอยู่ ซึ่งปกติการดำเนินการของศาลหากเป็นการประชุมปรึกษาคดีต้องประชุมโดยเปิดเผย ซึ่งเป็นวิธีการที่กฎหมายกำหนด แต่เป็นการเปิดเผยฝนองค์คณะ เป็นความลับกับคนอื่นไม่อย่างนั้นความลับรั่วไหล ส่วนการคัดเลือกหรือสรรหาองค์กรอิสระ หรือศาลรัฐธรรมนูญ เพิ่งมีเมื่อ2540 ก่อนหน้านั้นศาลฎีกาจะไม่มีหน้าที่สรรหาองค์กรอิสระต่างๆ และทุกครั้งที่ผ่านมาในสมัยที่ตนเป็นผู้พิพากษาศาลฎีกาก็เป็นการประชุมลับ คือ ไม่ต้องไปบอกใครว่าลงคะแนนให้ใคร และศาลฎีกาก็ใช้วิธีการนี้ตลอดมาก็ไม่เคยมีปัญหาอะไร และนำมาใช้ครั้งนี้ในการสรรหากกต.2คนด้วย ตามที่มีการเผยแพร่ตามสื่อต่างๆ และหากจะดูจริงๆแล้วในการสรรหาหรือคัดเลือกสมัยก่อน กฎหมายไม่ได้เขียนว่าให้ลงลับหรือเปิดเผย แต่ครั้งนี้กฎหมายเพิ่งเขียนเป็นครั้งแรกว่าให้ประชุมโดยเปิดเผย ซึ่งตนไม่ทราบว่าทางศาลจะตีความและเข้าใจอย่างไร ในคำว่า เปิดเผย เมื่อถามว่าหากขัดกับหลักกฎหมายจะแก้ด้วยวิธีการใด นายพรเพชรกล่าวว่า เรื่องนี้ตนไม่ทราบต้องรอให้ศาลตอบกลับมาก่อน เป็นเรื่องของคณะกรรมการสรรหา ซึ่งคณะกรรมการสรรหาก็ต้องกลับไปที่ประธานศาลฎีกาเพราะเป็นประธานกรรมการสรรหา ขณะเดียวกันก็เป็นประธานที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกา อย่างไรก็ตามเรื่องนี้ไม่มีอะไรที่จะต้องไปถามคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ(กรธ.) ว่ามีเจตนารมณ์อย่างไรเกี่ยวกับคำว่าเปิดเผย หรือ ไม่เปิดเผย เพราะตนไม่ได้สงสัยอะไร ยังรอฟังคำชี้แจงจากศาลอยู่ เมื่อถามว่าจะทำให้กระบวนการเลือกตั้งกกต.ชุดใหม่สะดุดหรือไม่ นายพรเพชรกล่าวว่าการเลือกกกต.ก็เป็นไปตามกระบวนการ หากสมมุติว่ามีกรณีที่ต้องสรรหาใหม่ก็ต้องสรรหาไปตามกระบวนการ จะเรียกว่าสะดุดก็ไม่มีผลกระทบอะไร ส่วนเรื่องระยะเวลาที่กฎหมายกำหนดต้องทำให้แล้วเสร็จภายใน 90 วัน อย่างว่าแต่ในส่วนของที่ประชุมใหญ่ของศาลฎีกาเลย ในส่วนของกรรมการสรรหาส่งรายชื่อไปแล้ว ถ้าสนช.ไม่รับรองบุคคลใดก็ต้องเลือกใหม่ ซึ่งกรอบเวลาก็จะนับใหม่ 90 วัน ในส่วนของคนที่ต้องสรรหาใหม่ และในส่วนของศาลฎีกา หากต้องการเลือกใหม่อาจจะไม่ต้องใช้เวลาถึง90วัน เพราะมีกระบวนการบางส่วนที่ทำไปแล้ว และหากมีกกต.ใหม่ล่าช้าก็ไม่กระทบเพราะกกต.ชุดเก่าต้องทำหน้าที่ไปจนกว่าจะมีชุดใหม่ได้รับการโปรดเกล้าฯมาทำหน้าที่