เมื่อเวลา 13.30 น.ของวันที่ 18 ธ.ค.60 ที่บริเวณหน้ากองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุตรดิตถ์ นายเสฐียรพงศ์ มากศิริ ผวจ.อุตรดิตถ์ พร้อมด้วย พล.ต.ชัยเดช สุรวดี ผบ.มทบ.35 และ พ.ต.อ.เฉลิม ชัยประสิทธิ์ รอง ผบก.ภ.จว.อุตรดิตถ์ พ.ต.อ.โอภาส คงเมือง รอง ผบก.ภ.จว.อุตรดิตถ์พ.ต.อ.พันธุ์เทพ ถึงทรัพย์ รอง ผบก.ภ.จว.อุตรดิตถ์ และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมประกอบด้วยพ.ต.อ.นิรันดร์ โรหิตาคนี ผกก.สภ.ลับแล พ.ต.อ.สมนึก มากมี ผกก.สภ.ท่าปลา พ.ต.ท.อนุสรณ์ ดังก้อง รอง ผกก.หน.ปส.ภ.จว.อุตรดิตถ์และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองอุตรดิตถ์ เจ้าหน้าที่ตำรวจปราบปรามยาเสพติด ภ.จว.อุตรดิตถ์ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ลับแลและเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ท่าปลา ได้ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมเครือข่ายค้ายาบ้ารายใหญ่ 2 อำเภอคือ อำเภอลับแล และอำเภอเมือง ได้จำนวนยาบ้ากว่า 5 หมื่นเม็ดด้วยกัน โดยเมื่อวันที่ 1 ธ.ค.60 ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองได้จับกุมนายจำลอง จันทร์แก้วพร้อมของกลางยาบ้า 28,735 เม็ดและได้ขยายผลโดยให้นายจำลองติดต่อซื้อยาบ้าจากชาวไทยภูเขาจำนวน 7 มัด(14,000เม็ด)ในราคา 50,000 บาทโดยนัดส่งของบริเวณโคนเสาไฟฟ้าหน้าโรงแรมเมเปิ้ลรีสอร์ท ม.1 ต.น้ำริด เจ้าหน้าที่จึงวางแผนเข้าจับกุมแต่ไม่พบตัวผู้กระทำผิดเจ้าหน้าที่จึงเข้าตรวจสอลบริเวณโคนเสาไฟฟ้าพบยาบ้าจำนวน 14,000 เม็ดซุกซ่อนอยู่ในกล่องรองเท้าผ้าใบจึงได้ตรวจยึดนำส่ง พงส.สภ.เมืองอุตรดิตถ์ ส่วนคดีที่ 2 เหตุเกิดเมื่อวันที่ 15 ธ.ค.60 ที่บ้านเลขที่ 180/1 ม.1 ต.ฝายหลวง อ.ลับแล ได้ตัวผู้ต้องหาคือ น.ส.ชื่นชีวาหรือแหนม ยะราช อายุ 19 ปี พร้อมด้วยยาบ้าของกลางจำนวน 43,941 เม็ด ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ลับแลได้รับหนังสือร้องเรียนผู้ค้ายาเสพติดภาคประชาชนผ่านสายด่วน 1386 เกี่ยวกับกลุ่มผู้ค้ายาบ้าจึงได้ทำการสืบสวนจนสามารถทำการจับกุมตัวผู้ค้าได้ดังกล่าว ซึ่งนายเสถียรพงศ์ มากศิริ ผวจ.อุตรดิตถ์ ได้กล่าวว่าขอความร่วมมือจากพี่น้องประชาชนชาวจังหวัดอุตรดิตถ์หากทราบข่าวว่ามีการเคลื่อนไหวของกลุ่มขบวนการค้ายาเสพติดก็ขอให้แจ้งเข้ามายังเจ้าหน้าที่ทางเจ้าหน้าที่พร้อมที่จะทำงานเต็มที่อยู่แล้วและในการจับกุมขบวนการค้ายาบ้าในจังหวัดอุตรดิตถ์ครั้งนี้ก็ขอขอบคุณทางประชาชนที่แจ้งข่าวเข้ามาให้ทางเจ้าหน้าที่ได้รับทราบ ส่วนคดีที่ 3 เป็นคดีฆ่าผ็อื่นโดยเจตนา เหตุเกิดที่บ้านเลขที่ 41 ม.4 ต.ท่าปลา อ.ท่าปลา ผู้ตายคือนางลำพูล ทะนะ อายุ 46 ปี ผู้ต้องหาคือนายประสิทธิ์ ทะนะ อายุ 51 ปี ผู้เป็นสามีจากการสอบสวนได้ความว่าก่อนเกิดเหตุผู้ต้องหากับผู้ตายซึ่งเป็นสามีภรรยากันมีปัญหาเรื่องความหึงหวงผู้ตายได้ขอหย่าแต่ผู้ต้องหาไม่ยอมหย่าจนกระทั่งเกิดเหตุสลดใจดังกล่าว