องคมนตรี เชิญถุงพระราชทานไปมอบแก่ราษฎรและเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน พร้อมติดตามการดำเนินงานโครงการสถานีพัฒนาการเกษตรที่สูงตามพระราชดำริ ในพื้นที่จังหวัดอุตรดิตถ์ และจังหวัดพิษณุโลก วันพุธที่ 9 กุมภาพันธ์ 2565 เวลา 10.15 น. นายพลากร สุวรรณรัฐ องคมนตรี ประธานอนุกรรมการติดตามและขับเคลื่อนโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริในพื้นที่ภาคเหนือ พร้อมด้วยนายปวัตร์ นวะมะรัตน รองเลขาธิการ กปร. และคณะอนุกรรมการฯ เชิญถุงพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ไปมอบแก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานหน่วยงานความมั่นคง ณ ฐานปฏิบัติการสถาพร หมวดตำรวจตระเวนชายแดนที่ 3144 ตำบลบ่อเบี้ย อำเภอบ้านโคก จังหวัดอุตรดิตถ์ รวม 54 ชุด จำนวน 4 ฐานปฏิบัติการ ได้แก่ ฐานปฏิบัติการสถาพร หมวดตำรวจตระเวนชายแดนที่ 3144 ฐานปฏิบัติการบ้านปางไฮ หมวดตำรวจตระเวนชายแดนที่ 3142 ฐานปฏิบัติการพิชัยเผด็จศึก หมวดตำรวจตระเวนชายแดนที่ 3143 และฐานปฏิบัติการพิทักษ์ไทย หมวดตำรวจตระเวนชายแดนมวลชนสัมพันธ์ เพื่อเป็นขวัญกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ป้องกันชายแดนรักษาความสงบเรียบร้อยให้แก่ประชาชนตลอดมา การนี้ องคมนตรี และคณะฯ ได้รับฟังสรุปสถานการณ์ด้านความมั่นคงในพื้นที่ และร่วมปลูกต้นไม้เพื่อเป็นร่มเงาและสร้างความชุ่มชื้นให้แก่พื้นที่ จากนั้นคณะฯ ได้เดินทางไปยังโครงการสถานีพัฒนาการเกษตรที่สูงตามพระราชดำริ ภูขัด ภูเมี่ยง ภูสอยดาว อำเภอชาติตระการ จังหวัดพิษณุโลก เพื่อเชิญถุงพระราชทานรวมทั้งสิ้น 138 ชุด ไปมอบแก่ราษฎรในพื้นที่ พร้อมเสื้อกันหนาว รวม 111 ตัว ไปมอบแก่เด็กเพื่อบรรเทาความหนาวเย็นจากสภาพภูมิอากาศ จำนวน 6 หมู่บ้าน ได้แก่ บ้านรักชาติ บ้านเทิดชาติ บ้านนุชเทียน บ้านชำนาญจุ้ย บ้านหมั่นแสวง และบ้านใหม่รักไทย สร้างความปลื้มปีติให้แก่ราษฎรในพระมหากรุณาธิคุณที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงห่วงใยทุกข์สุขของพสกนิกรทั่วทุกพื้นที่เสมอมา โอกาสนี้ องคมนตรี และคณะฯ ได้พบปะเยี่ยมเยียนราษฎร พร้อมรับฟังสรุปผลการดำเนินงานและผลสัมฤทธิ์ที่เกิดขึ้นของโครงการสถานีพัฒนาการเกษตรที่สูงตามพระราชดำริ ภูขัด ภูเมี่ยง ภูสอยดาว ซึ่งได้ดำเนินงานสนองพระราชดำริในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง พัฒนาชีวิตความเป็นอยู่ของราษฎรควบคู่กับการอนุรักษ์ฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติ ด้วยทรงห่วงใยสภาพป่าที่เสื่อมโทรมและราษฎรที่มีฐานะความเป็นอยู่ที่ยากลำบากโดยเฉพาะปัญหาเรื่องที่ทำกิน อีกทั้งราษฎรยังขาดความรู้ทางการเกษตร จึงมีพระราชดำริให้จัดตั้งสถานีพัฒนาการเกษตรที่สูงฯ ขึ้น เพื่อให้เป็นแหล่งศึกษาหาความรู้ทางการเกษตรที่เหมาะสมกับสภาพพื้นที่แก่ราษฎรได้เลี้ยงชีพจนสามารถพึ่งพาตนเองได้ ตลอดจนการสร้างจิตสำนึกให้ราษฎรเข้าใจการใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างคุ้มค่าและยั่งยืน ปัจจุบัน ภายใต้การดำเนินงานของโครงการฯ โดยมีคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ (กปร.) ให้การสนับสนุนงบประมาณในการดำเนินงานมาอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและความร่วมใจของราษฎรในพื้นที่โครงการฯ สามารถฟื้นฟูสภาพป่าที่เคยถูกทำลายจนเสื่อมโทรมให้กลับคืนสมบูรณ์ดังเดิม ส่งเสริมการอนุรักษ์ดินและระบบนิเวศน์ของป่าบนพื้นที่สูง ควบคู่ไปกับการฟื้นฟูระบบนิเวศน์ต้นน้ำ โดยราษฎรมีส่วนร่วมเป็นอาสาสมัครพิทักษ์ป่า รวมทั้งการฝึกอบรมการทำเกษตรปลอดสารเคมี นำความรู้ไปดำเนินการที่บ้านของตนเองทำให้มีผลผลิตที่ปลอดภัยไว้รับประทานในครัวเรือน และสามารถจำหน่ายเพื่อเป็นรายได้ ส่งผลให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น อีกทั้งเสริมสร้างความเข้มแข็งให้แก่ชุมชนในการสนับสนุนป้องกันประเทศและต่อต้านขบวนการค้ายาเสพติด โอกาสนี้องคมนตรีได้ร่วมปลูกต้นไม้เพื่อสร้างความชุ่มชื้นให้แก่พื้นที่อีกด้วย กองประชาสัมพันธ์ สำนักงาน กปร.