สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) ตั้งเป้าสู่การเป็นมหาวิทยาลัยแห่งอนาคต เปิดตัว “สกิลแมปปิง” (Skill Mapping) โซลูชั่นระบบเชื่อมโยงอุปสงค์ความต้องการทักษะแรงงานของภาคอุตสาหกรรมกับการออกแบบหลักสูตรในมหาวิทยาลัยให้สอดคล้องกัน ยกระดับทักษะเดิมให้ดีขึ้นหรือสร้างทักษะใหม่ (Upskill-Reskill) แบบไร้ข้อจำกัด พร้อมรับประกาศนียบัตรการันตีศักยภาพ ตั้งเป้าเริ่มใช้ภายใน สจล. ปีการศึกษา 2565 และเตรียมขยายผลสู่สถาบันอุดมศึกษาทั่วประเทศ รศ.ดร.อนุวัฒน์ จางวนิชเลิศ รักษาการอธิการบดี สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) กล่าวว่า สจล. นอกการการมุ่งพัฒนาการศึกษาให้แก่นักศึกษา ยังส่งเสริมบุคคลทั่วไปที่ต้องการยกระดับทักษะเดิมให้ดีขึ้นหรือสร้างทักษะใหม่ (Upskill-Reskill) ให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาดแรงงานที่เปลี่ยนไป ด้วยการพัฒนา “KMITL Masterclass” แพลตฟอร์มการเรียนรู้ใหม่ล่าสุด เพื่อพัฒนาทั้งฮาร์ดสกิล (Hard Skill) และซอฟท์สกิล (Soft Skill) ในรูปแบบออนไลน์สามารถเรียนรู้จากที่ไหน เวลาใดก็ได้ เมื่อเรียนจบยังได้รับประกาศนียบัตร โดยปัจจุบันได้พัฒนาหลักสูตรจำนวน 56 หลักสูตร อาทิ หลักสูตรหุ่นยนต์และปัญญาประดิษฐ์ (Robotics and AI) ผู้ประกอบการสมัยใหม่ (Modern Entrepreneur) การแปรรูปอาหารไม่ยากอย่างที่คิด (Food Processing easier than you think) “ทั้งนี้ สจล. มุ่งมั่นในการพลิกบทบาทสู่การเป็นมหาวิทยาลัยแห่งอนาคต ตั้งเป้าเป็นสถาบันการศึกษาที่ริเริ่มนำความรู้ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีพัฒนาการศึกษาทั้งในระบบการศึกษาหลักและการศึกษาทางเลือก ส่งเสริมวัฒนธรรมการเรียนรู้ตลอดชีวิต เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของบัณฑิตยุคใหม่ รวมถึงแรงงานและผู้ประกอบการไทยให้พร้อมรับมือกับสถานการณ์ของโลกที่เปลี่ยนไปด้วยนวัตกรรม” จึงได้พัฒนา “ฐานข้อมูลกรอบทักษะแรงงาน” (Skill Mapping) โซลูชั่นระบบรวบรวมทักษะแรงงานที่ภาคอุตสาหกรรมต้องการเพื่อนำมาใช้ในการออกแบบหรือพัฒนาหลักสูตรของ สจล. ตั้งแต่ปีการศึกษา 2565 เป็นต้นไป ทั้งนี้ โซลูชั่นดังกล่าว เปรียบเสมือนแผนที่นำทาง ที่เปิดโอกาสให้ภาคอุตสาหกรรม ภาคการศึกษา และภาคแรงงาน ได้ร่วมกันพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขันไปพร้อมกัน ด้านศ.ดร.สุรินทร์ คำฝอย รักษาการรองอธิการบดีฝ่ายแผนงาน สจล.ผู้ริเริ่มการพัฒนา “ฐานข้อมูลกรอบทักษะแรงงาน” (Skill Mapping) เผยถึงที่มาในการพัฒนามาจากการสำรวจข้อมูลการจัดอันดับความสามารถในการแข่งขันทั้งด้านการศึกษาและด้านระดับฝีมือแรงงานของไทยอยู่ในระดับที่น่าเป็นห่วง อาทิ ตัวชี้วัดศักยภาพการแข่งขันด้านทรัพยากรมนุษย์โลกในปีที่ผ่านมา (The Global Talent Competitiveness Index 2021) ประเทศไทยได้เฉลี่ยเพียง 45.46 คะแนน จัดอยู่ในอันดับที่ 68 ของโลก ซึ่งผลการจัดอันดับข้างต้น เป็นไปในทิศทางเดียวกันกับอีกหลายผลการสำรวจ หากไม่มีการพัฒนาทักษะของแรงงานอย่างจริงจัง ศักยภาพการแข่งขันของประเทศไทยก็จะค่อยๆ ทิ้งห่างจากประเทศอื่นๆ ในเวทีเศรษฐกิจโลกในที่สุด สจล. เล็งเห็นความจำเป็นในการสร้างระบบตรงกลางที่ช่วยเชื่อมโยงระหว่างทักษะที่ตลาดแรงงานสมัยใหม่ต้องการเพื่อการออกแบบหลักสูตร สาขาวิชาเรียน กิจกรรมการเรียนการสอน ตลอดจนการวัดและประเมินผลการเรียนรู้ของนักศึกษา สจล. ให้สอดคล้องกัน สามารถสร้างบัณฑิตที่มีสมรรถนะการทำงานที่ตรงกับความต้องการทีเฉพาะลงไปแต่ละอุตสาหกรรม อย่างไรก็ดี โซลูชั่นดังกล่าวได้ผ่านการเห็นชอบกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ให้นำไปเป็นส่วนหนึ่งในการจัดทำแผนด้านการอุดมศึกษาเพื่อผลิตและพัฒนากำลังคนของประเทศ พ.ศ. 2564 – 2570 เพื่อใช้เป็นกรอบในการดำเนินงานของสถาบันอุดมศึกษาทั่วประเทศเป็นที่เรียบร้อยแล้ว นับตั้งแต่ปีการศึกษา 2565 ด้าน รศ. ดร.ปานวิทย์ ธุวะนุติ รักษาการแทนผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายพัฒนาการเรียนการสอน สจล.นักวิจัยผู้พัฒนาโซลูชั่นระบบ Skill Mapping เผยว่า จุดเด่นของโซลูชั่นดังกล่าว คือ ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ทั้งผู้ประกอบการ ภาคอุตสาหกรรม หน่วยงานรับรองคุณวุฒิ หน่วยงานของรัฐ สามารถเข้ามามีส่วนร่วมในการให้ข้อมูลเกี่ยวกับทักษะแรงงานที่ผู้ประกอบการคาดหวังในการจ้างงานได้ โดยระบบจะปรับปรุงข้อมูลให้ทันสมัยตลอดเวลา