สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐฯ พร้อมด้วยประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีน ได้พบปะหารือทวิภาคีกันแบบนอกรอบ ก่อนการประชุมสุดยอดผู้นำกลุ่มชาติเศรษฐกิจขนาดใหญ่ 20 ประเทศ หรือจี 20 ซัมมิต จะเริ่มขึ้นที่เกาะบาหลี ประเทศอินโดนีเซีย เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ตามเวลาท้องถิ่น ท่ามกลางความคาดหวังว่า การพบปะหารือกันในครั้งนี้จะช่วยลดความตึงเครียดจากการขัดแย้งกันระหว่างชาติมหาอำนาจทั้งสองประเทศ

รายงานข่าวแจ้งว่า ผู้นำทั้งสองประเทศ ซึ่งพบปะกันที่ “มูเลีย” ซึ่งเป็นโรงแรมหรูในเมืองมูซาดัว บนเกาะบาหลี ได้หยิบยกประเด็นสำคัญต่างๆ ขึ้นมาหารือ โดยประธานาธิบดีไบเดน ได้นำเรื่องกรณีไต้หวัน ที่สหรัฐฯ แสดงจุดยืนว่า ไม่เห็นด้วยในการกระทำและแสดงออกในเชิงบังคับของจีน ที่มีต่อไต้หวัน พร้อมกันนี้ ผู้นำสหรัฐฯ ยังได้หยิบยกเรื่องการละเมิดสิทธิมนุษยชนของจีนในมณฑลซินเจียงและฮ่องกง ขึ้นมาหารือกับผู้นำจีน รวมถึงประเด็นเรื่องรัสเซียที่ทำสงครามรุกรานยูเครน ส่วนในด้านเศรษฐกิจ ประธานาธิบดีไบเดน ได้พูดถึงการปฏิบัติของจีนที่ไม่เป็นไปตามกลไกตลาด อย่างไรก็ตาม นายไบเดน กล่าวย้ำว่า ตนจะพยายามหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดสงครามเย็นครั้งใหม่กับจีน พร้อมกับระบุว่า ตนดีใจเป็นอย่างมากที่ได้พบกับประธานาธิบดีสี

ขณะเดียวกัน ทางด้านประธานาธิบดีสี กล่าวว่า ความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับสหรัฐฯ ที่ผ่านมาไม่เป็นไปตามที่โลกคาดหวัง ดังนั้น เราจึงต้องเดินให้ถูกทาง หาทิศทางให้ถูกต้องในการสานสัมพันธ์ทวิภาคีระหว่างจีนกับสหรัฐฯ นับจากนี้

รายงานข่าวเผยว่า ผู้นำทั้งสองประเทศไม่ได้มีการแถลงเกี่ยวกับการพบปะหารือข้างต้น และมีรายงานว่า ทั้งประธานาธิบดีไบเดน และประธานาธิบดีสี ไม่ได้สวมหน้ากากอนามัยเพื่อป้องกันโรคโควิด-19 ระหว่างที่หารือกันในครั้งนี้ แม้ว่าคณะผู้ติดตามของผู้นำทั้งสอง จะสวมหน้ากากอนามัยกันก็ตาม