จากกรณีก๊าซแอมโมเนียรั่ว ภายในโรงงานแปรรูปปลาแซลม่อนแช่แข็ง ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่หมู่ 1 ต.ท่าข้าม อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เมื่อเวลา 22.00 น. คืนวานนี้ (27 มี.ค.66) ทำให้ต้องอพยพคนงานที่พักอยู่ในโรงงานทั้งหญิงและชายนับร้อยคนออกมาซึ่งส่วนใหญ่เป็นแรงงานชาวเมียนมาและบางส่วนมีอาการอาเจียร เวียนศรีษะ และมีบางรายอาการรุนแรงถึงขึ้นหมดสติต้องนำตัวส่งโรงพยาบาล

ล่าสุด วันที่ 28 มี.ค.66 แม้ว่าจะควบคุมสถานการณ์ก๊าซแอมโมเนียที่รั่วจากท่อที่อยู่บนเพดานห้องเย็นได้แล้ว โดยเจ้าหน้าที่เข้าไปปิดวาวแอมโมเนียที่หล่อท่อในโรงงานตั้งแต่เมื่อคืนนี้ แต่ก็ยังมีสารตกค้างอยู่ในระบบของท่อซึ่งอยู่บนฟ้าเพดานของห้องเย็น ต้องใช้สเปรย์น้ำพ้นลงมาเพื่อลดความเข้มข้นของแอมโมเนียลงและยังมีกลิ่นแอมโมเนียกระจายอยู่ทั้งในโรงงานและรอบๆโรงงาน และโรงงานต้องหยุด 1 วัน

และในวันนี้ในส่วนของคนงานที่เป็นแรงงานต่างด้าวที่พักอยู่ในโรงงานจำนวน 84 คน จำเป็นต้องอพยพไปอยู่ที่วัดแม่เตยชั่วคราวซึ่งอยู่ห่างจากโรงงานประมาณ 2 กิโลเมตร โดยมีทีมแพทย์ของโรงพยาบาลหาดใหญ่เข้าไปสังเกตุอาการณ์ที่อาจจะได้รับผลข้างเคียงจากการสูดดมก๊าซแอมโมเนียเข้าไป

ด้านเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น ปภ.สงขลา อุตสาหกรรมจ.สงขลา สำนักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ 12 สงขลา อุตสาหกรรม จ.สงขลา กรมโรงงานอุตสาหกรรม ฝ่ายปกครองอ.หาดใหญ่ อบต.ท่าข้ามและตำรวจสภ.คอหงส์ ได้ร่วมกันจัดตั้งศูนย์บัญชาการณ์เหตุการณ์ที่ศูนย์แพทย์ชุมชนสามตำบลของ อ.หาดใหญ่ และประชุมวางแผนการการแก้ปัญหา ทั้งการเข้าตรวจสอบตรวจวัดค่าสารแอมโมเนียภายในโรงงานสภาพอากาศโดยรอบ และเก็บตัวอย่างสารตกค้างในน้ำ  และได้รับการยืนยันจากวิศวกรประจำโรงงานแจ้งว่าได้ปิดระบบควบคุมการรั่วของแอมโมเนียแล้ว

โดยในส่วนของภายในโรงงานในวันนี้ ได้มีการจัดรถน้ำของ ปภ.12 จำนวน 2 คัน เข้าฉีดสเปรย์น้ำตลอดเวลาเพื่อลดความเข้มข้นของแอมโมเนีย จัดโรบอทหรือหุ่นยนต์เข้าตรวจสอบจุดเกิดเหตุ จัดเจ้าหน้าที่ 3 นาย ใส่ชุดนิรภัยเข้าตรวจสอบห้องเกิดเหตุ และในวันพรุ่งนี้ทุกฝ่ายจะเข้าตรวจสอบและเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ

ส่วนคนงานที่ได้รับผลกระทบในเบื้องต้นมีจำนวน 9 ราย ซึ่งมีอาการคลื่นใส้ อาเจียนแต่ปลอดภัยทั้งหมดแล้ว โดยนำส่งโรงพยาบาล ม.อ.4 ราย และโรงพยาบาลหาดใหญ่ 5 ราย

สำหรับภาพรวมของการควบคุมเหตุการณ์น้ำ นายจิระพจน์ ชุมภูประสิทธิ์ วิศวกรโยธาชำนาญการ สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจ.สงขลา เปิดเผยว่า ได้ใช้รถน้ำของ ปภ.12 มาฉีดน้ำเพื่อลดความเข้มข้นของสารแอมโมเนียให้เจอจางลง และส่งเจ้าหน้าที่สวมชุด SCPA เข้าไปตรวจวัดความเข้มข้นสารเคมี และเพื่อความปลอดภัยของชาวบ้านได้ส่งเจ้าหน้าที่จากอุตสาหกรรม จ.สงขลา และสำนักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ 12 จ.สงขลา เข้าไปตรวจวัดคุณภาพอากาศและตรวจน้ำว่ามีอันตรายต่อสัตว์หรือไม่ ทั้งนี้ในส่วนของความอันตรายของสารแอมโมเนียนั้น ขึ้นอยู่กับความเข้มข้นเพราะจะสามารถทำลายระบบทางเดินหายใจและระคายเคืองผิวหนัง และขึ้นอยู่กับกระแสลมซึ่งภายบริเวณโรงงานกระแสลมนิ่ง หลังจากที่ฉีดสเปรย์น้ำแล้วก็จะตรวจวัดความเจือจางอีกครั้งจนกว่าจะอยู่ในระดับที่ปลอดภัย

ด้าน นายรัตน์ นริศ สุวรรณรัตน์ สาธารณสุขอำเภอหาดใหญ่ เปิดเผยว่า หลังจากที่เจ้าหน้าที่สาธารณสุขลงพื้นที่ไปตรวจสอบทั้งที่โรงงานและจุดอพยพมีผู้ป่วยจำนวน 10 คน ส่งไปรักษาที่โรงพยาบาลหาดใหญ่ 7 คน และโรงพยาบาล ม.อ.3 คนซึ่งทุกคนปลอดภัยแล้วและแพทย์อนุญาตให้กลับบ้านได้ แต่สิ่งที่น่าเป็นห่วงคือผลกระทบกับชาวบ้านที่อยู่ใกล้กับโรงงาน ถ้าเป็นไปได้ก็ขอให้ชาวบ้านเว้นระยะห่างจากโรงงานออกไปก่อนหรืออยู่แต่ภายในบ้านและสวมหน้ากากอนามัย

นายสินธพ อินทรัตน์ นายก อบต.ท่าข้าม เจ้าของพื้นที่ เปิดเผยว่า สำหรับการแก้ปัญหาแอมโมเนียที่ตกค้างในโรงงานได้ประสานรถน้ำของ ปภ.เขต12 และอบต.ในพื้นที่ใกล้เคียงเพื่อมาฉีดน้ำทำเป็นม่านน้ำเพื่อลดความเข้มข้นของสารแอมโมเนียลงและให้ไหลระบายลงบ่อบำบัดน้ำเสีย และหากเป็นไปได้ก็ขอให้ชาวบ้านที่อยู่ในรัศมีรอบโรงงาน 200 เมตร ออกไปก่อนและคาดว่าภายในวันนี้จะสามารถแก้ปัญหาให้กลับเข้าสู่ภาวะปกติได้ ในส่วนของผู้แรงงานที่ต้องอพยพไปอยู่ที่วัดแม่เตยนั้นก็มีทีมแพทย์จากโรงพยาบาลหาดใหญ่ไปช่วยดูแลและสังเกตุอาการอย่างใกล้ชิด