เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน นายเมโธ เปี่ยมทิพย์มนัส ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการอาวุโส ส่วนงานการเงิน และรักษาการหัวหน้าสายงานการเงินและบัญชี บริษัท อินทัช โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) ได้ส่งหนังสือถึงกรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ว่าตามที่บริษัท อินทัช โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) มีหนังสือ เรื่อง แจ้งกรณีที่เป็นข่าวของ บมจ.ไอทีวี (ไอทีวี) เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน 2566 บริษัทขอชี้แจงให้ตลาดหลักทรัพย์ทราบว่า เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน 2566 บริษัทได้รับหนังสือจากจากคณะกรรมการไอทีวี เรื่อง การตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีที่เป็นข่าวเกี่ยวกับการประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2566 ที่ผ่านมาแล้ว โดยทางไอทีวีได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง และได้มีหนังสือชี้แจงผู้ถือหุ้นผ่านเว็ปไชต์ของไอทีวีแล้ว ซึ่งมีรายละเอียดปรากฏอยู่ในเว็บไซต์ www.itv.co.th

คณะกรรมการบริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน) ได้ออกเอกสารแถลงการณ์ชี้แจงถึงเหตุการณ์ที่เผยแพร่ในสื่อเกี่ยวกับการบันทึกรายงานการประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2566 ("รายงานการประชุม") แบบนำส่งงบการเงิน (ส.บช.3) ของบริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน) ("บริษัท") ปี 2565 และงบการเงินไตรมาส 1 ประจำปี 2566 ของบริษัท โดยบริษัทขอเรียนชี้แจงข้อเท็จจริง ดังนี้

1.ในการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2566 ("การประชุม" บริษัทได้จัดประชุม เมื่อวันที่ 26 เมษายน 2566 โดยในการประชุม ดังกล่าวมีทั้งหมด 9 วาระ วาระที่ 1 ถึงวาระที่ 8 เป็นวาระรายงานอนุมัติและพิจารณาการดำเนินการทางธุรกิจตามการค้าปกติของบริษัท ส่วนวาระที่ 9 เป็นวาระอื่นๆ ซึ่งไม่ได้มีผู้ถือหุ้นเสนอวาระเพื่อพิจารณาและอนุมัติเพิ่มเดิม บริษัทจึงเปิดโอกาสให้ผู้ถือหุ้นซักถามในเรื่องอื่นๆ

ในการประชุมดังกล่าว มีคำถามที่ซ้ำซ้อนจากผู้ถือหุ้นหรือเป็นคำถามที่ไม่เกี่ยวข้องกับการดำเนินกิจการของบริษัท ดังนั้น การจัดทำบันทึกคำถามและคำตอบในรายงานการประชุม บริษัทจึงได้สรุปสาระสำคัญของคำถามและคำตอบในระหว่างการประชุม เฉพาะที่กี่ยวข้องกับการดำเนินกิจการของบริษัทเท่านั้นเพื่อให้มีความกระชับและชัดเจน โดยมิได้จดบันทึกการประชุมเป็นคำต่อคำ

ทั้งนี้ การบันทึกรายงานการประชุมที่เป็นประเด็นอยู่ในขณะนี้ เป็นการสรุปคำตอบจากคำถามหลายข้อที่ผู้ถือหุ้นส่งเข้ามา ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับขัอพิพาทเรื่องสิทธิตามสัญญาเข้าร่วมงานและดำเนินการสถานีวิทยุไทรทัศน์นั้น บริษัทได้บันทึกราชงานการประชุมไว้แล้วในวาระ 9 หน้า 14 ว่า "ผลคดีเป็นจุดสำคัญที่สุด หากผลคคียังไม่ออก เป็นไปได้ยากมากที่บริษัทจะดำเนินการใดๆ ในขณะนี้"

สำหรับในส่วนที่มีการบันทึกราชงานการประชุมว่า "ปัจจุบัน บริษัทยังดำเนินกิจการอยู่ ตามวัตถุประสงค์ของบริษัทและมีการส่งงบการเงินและยื่นแบบภาษีเงินได้นิติบุคคลตามปกติ" นั้น บริษัทไม่ได้ต้องการจะสื่อสารว่าบริษัทยังประกอบกิจการสื่ออยู่ แต่หมายถึงบริษัทยังคงดำเนินการอยู่ภายใต้วัตถุประสงค์ที่บริษัทได้จดทะเบียนไว้กับกรมพัฒนาธุรกิจการค้าโดยมิได้มีการเลิกกิจการแต่อย่างใด

2.ในส่วนของแบบนำส่งงบการเงิน (ส.18.3) ของบริษัทประจำปี 2565 ที่บริษัทยื่นต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม 2566 บริษัทขอเรียนว่า รายได้จากการประกอบธุรกิจของบริษัทได้แสดงอยู่ในงบการเงินของบริษัทประจำปี 2565 ซึ่งได้มีการตรวจสอบและลงนามรับรองโดยผู้สอบบัญชีรับอนุญาตและ ได้ยื่นต่อกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งในงบการเงินดังกล่าวได้แสดงให้เห็นว่า รายได้ของบริษัทมาจากผลตอบแทนจากการลงทุนและดอกเบี้ยรับเท่านั้นซึ่งงบการเงินฉบับดังกล่าว บริษัทได้ยื่นต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์เมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2566 เช่นกัน

3.ในส่วนของงบการเงินไตรมาส 1 ประจำปี 2566 ของบริษัทที่มีการโพสต์ในเว็บไซต์ www.itv.co.th ตามที่มีข่าวอยู่ในขณะนี้นั้น บริษัทขอเรียนให้ทราบว่างบดังกล่าวเป็นเพียงร่างงบการเงินที่ใช้ภายในบริษัทและยังไม่ได้มีการสอบทานหรือตรวจสอบจากผู้ตรวจสอบบัญชี จึงยังไม่สามารถนำไปอ้างอิงหรือใช้งานภายนอกบริษัทได้และไม่มีผลผูกพันทางกฎหมายใดๆ

บริษัทขอเรียนย้ำว่า การดำเนินการประชุม การจัดทำรายงานการประชุม การนำส่งแบบนำส่งงบการเงินงบการเงิน และการดำเนินการต่าง ๆ ของบริษัทเป็นการดำเนินการทางธุรกิจตามปกติและเป็นไปตามกฎหมายทุกประการ

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า INTOUCH เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ใน itv จำนวน 52.92% และ GULF ถือหุ้นใหญ่ใน INTOUCH จำนวน 41.19%